ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เกาหลีเหนือ หลังจากที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะยังไม่พิจารณาการใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้เกาหลีเหนือในขณะนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 1/2560
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,636.92 จุด พุ่งขึ้น 183.67 จุด หรือ +0.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,349.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุด หรือ +0.86% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,856.79 จุด เพิ่มขึ้น 51.64 จุด หรือ +0.89%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากนายเอช. อาร์. แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะยังไม่พิจารณาทางเลือกในการใช้ปฏิบัติการทางทหารในขณะนี้
นายแมคมาสเตอร์กล่าวว่า "ขณะนี้ถึงเวลาที่เราจะใช้มาตรการทุกอย่างที่เราดำเนินการได้ ยกเว้นมาตรการทางทหาร ในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี โดยเรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตร และร่วมกับจีนเพื่อพิจารณาทางเลือกในการดำเนินการ"
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 1/2560 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 1 ปี
ทั้งนี้ GDP ไตรมาส 1/2560 ขยายตัวสูงกว่าเป้าหมายตลอดปี 2560 ที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 6.5% และสูงกว่าไตรมาส 4/2559 ที่มีการขยายตัว 6.8%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น และมีส่วนช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุด ขณะที่หุ้นเอ็มแอนด์ที แบงก์ ปรับตัวขึ้นหลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีเกินคาด
หุ้นอเมซอน พุ่งขึ้น 2% หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิตสวิสได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นอเมซอนขึ้นสู่ระดับ 1,050 ดอลลาร์ จากระดับ 900 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นโบอิ้ง ดีดตัวขึ้น 1.9% หลังจากเครดิตสวิสได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของโบอิ้งเช่นกัน
หุ้นเนทฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3% แม้ว่าทางบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์
ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) เดือนเม.ย.เคลื่อนไหวที่ระดับ 5.2 ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากระดับ 16.4 ในเดือนมี.ค. แต่ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัว และดัชนีอยู่ในภาวะขยายตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา และอีเบย์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.โดยมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.