ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) โดยได้ภาวะการซื้อขายได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้น Vivendi บริษัทสื่อจากฝรั่งเศส เจ้าของค่ายเพลงยูนิเวอร์ซัล มิวสิค กรุ๊ป และหุ้นแอสทราเซเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่จากอังกฤษ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 395.63 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,405.42 จุด เพิ่มขึ้น 22.00 จุด หรือ +0.41% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,770.41 จุด เพิ่มขึ้น 59.35 จุด หรือ +0.47% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,435.39 จุด เพิ่มขึ้น 48.76 จุด หรือ +0.66%
หุ้น Vivendi พุ่งขึ้น 4.7% เนื่องจากมีข่าวว่าบริษัทเตรียมซื้อหุ้น 60% ของ Havas SA ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทโฆษณาในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหุ้นในส่วนที่ถือครองโดยประธานของ Vivendi เอง
ส่วนหุ้นแอสทราเซเนก้า ทะยาน 9% หลังบริษัทเปิดเผยว่า การทดลองขั้นปลายของยารักษาโรคมะเร็ง Imfinzi ให้ผลลัพท์ในเชิงบวก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาค สำนักงานสถิติเยอรมนีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 0.6% เทียบรายปี ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ปัจจัยหนุนที่ช่วยให้ GDP เยอรมนีขยายตัวในไตรมาสแรกนั้น มาจากความแข็งแกร่งด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง การใช้จ่ายภาครัฐและภาคครัวเรือน และการส่งออก
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลง 3.2% ของการผลิตในภาคพลังงาน
เมื่อเทียบรายปี การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค.
ตลอดสัปดาห์นี้ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3%