ดาวโจนส์เปิดแดนบวก ขานรับผลประกอบการ"โฮม ดีโปท์" ขณะ S&P 500, Nasdaq ยังคงทำนิวไฮ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 16, 2017 21:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทโฮม ดีโปท์

ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ยังคงพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ต่อเนื่องจากวานนี้

ณ เวลา 21.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,019.56 จุด เพิ่มขึ้น 37.62 จุด หรือ 0.18%

หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโฮม ดีโปท์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

โฮม ดีโปท์ อิงค์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.67 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.62 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 2.389 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.374 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 5.5% เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.0%

นักลงทุนปรับตัวรับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เปิดเผยข้อมูลความลับแก่เจ้าหน้าที่รัสเซียในสัปดาห์ที่แล้ว

ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ โดยกล่าวปกป้องการที่เขาได้แบ่งปันข้อมูลความลับกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาแบ่งปันข่าวกรองดังกล่าวกับทางรัสเซีย อันเนื่องจากเหตุผลด้านมนุษยธรรม และเขาต้องการให้รัสเซียดำเนินการมากขึ้นในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS)

สื่อรายงานก่อนหน้านี้ว่า ปธน.ทรัมป์ได้เปิดเผยข้อมูลจากฝ่ายข่าวกรองเกี่ยวกับกลุ่ม ISIS ขณะที่พบปะกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายเซอร์เก คิซยัค ทูตรัสเซียประจำสหรัฐ ที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนในการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลงสวนทางคาดการณ์ในเดือนเม.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของการก่อสร้างบ้านสำหรับหลายครอบครัว

ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลง 2.6% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.17 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 1.20 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค.

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.26 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย.

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2014 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค.

การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่พุ่งขึ้นในเดือนเม.ย. ได้แรงหนุนจากการผลิตรถยนต์ที่ทะยานขึ้น 5.0% หลังจากร่วงลง 3.6% ในเดือนมี.ค.

การผลิตภาคเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนเม.ย. ขณะที่การผลิตในภาคสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 0.7%

ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการประเมินผลผลิตในภาคการผลิต ภาคสาธารณูปโภค และภาคเหมืองแร่ของสหรัฐ


แท็ก อุตสาหกรรม   S&P  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ