ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยโพลล์สำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ และพรรคแรงงานมีคะแนนห่างกันไม่มาก ซึ่งอาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องขับเคี่ยวกันสูสีและอาจออกผลลัพธ์ได้สองหน้า
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 0.81 จุด หรือ -0.01% ปิดที่ 7,524.95 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อจับตา 3 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ ซึ่งได้แก่ การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ, การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของ ECB และการที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐทั้งในประเด็นการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐของรัสเซียและประเด็นเกี่ยวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจากบริษัทหลักทรัพย์โอแลนดา กล่าวว่า "การเลือกตั้งในอังกฤษเป็นเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนจับตามากในขณะนี้ เนื่องจากผลการเลือกตั้งจะส่งผลต่อกระบวนการเจรจาแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ตลอดช่วงหลายปีข้างหน้า"
ทั้งนี้ โพลล์สำรวจล่าสุดจากเซอร์เวชั่น แสดงให้เห็นว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกฯเมย์ มีคะแนนนำพรรคแรงงานเหลือเพียง 1 จุด ลดลง 16 จุดจากเดือนก่อน ขณะที่โพลล์จากสำนักข่าวเทเรกราฟ ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมมีคะแนนนำ 7 จุด ลดลงจากที่เคยนำห่างกว่า 20 จุดในเดือนเม.ย.
หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ร่วงลง 3.7% หลังธนาคาร HSBC ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของบริษัทสินค้าหรูดังกล่าวจากระดับ "hold" สู่ระดับ "reduce"