ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดพุ่ง 77.35 จุด รับกระแสคาดรบ.ใหม่ใช้แนวทางซอฟต์เบร็กซิต

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday June 10, 2017 05:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นปิดแดนบวกเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) หลังปรับตัวลดลงมา 4 วันติดต่อกัน โดยภาวะการซื้อขายได้ปัจจัยหนุนจากความคาดหวังของนักลงทุนที่มองว่า การที่พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่ได้เสียงข้างมากในสภาและต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมนั้น อาจส่งผลให้การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปจะเป็นไปในแนวทางที่ผ่อนปรนลงกว่าเดิม หรือซอฟต์ เบร็กซิต (Soft Brexit) นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงก็เป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน

ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 77.35 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 7,527.33 จุด สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีร่วงลง 1.3%

ผลการนับคะแนนเลือกตั้งอังกฤษอย่างไม่เป็นทางการปรากฏว่า พรรคอนุรักษ์นิยมได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 319 ที่นั่ง ลดลง 11 ที่นั่ง จากเดิมที่ได้ 330 ที่นั่ง ส่วนพรรคแรงงานได้ 261 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 29 ที่นั่ง จากเดิมที่ได้ 232 ที่นั่ง ขณะที่พรรคชาตินิยมสกอตแลนด์ (SNP) ได้ 35 ที่นั่ง และพรรค Lib Dems ได้ 12 ที่นั่ง ส่วนพรรค Democratic Unionist Party (DUP) ได้ 10 ที่นั่ง

ผลการนับคะแนนดังกล่าวบ่งชี้ว่าอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะที่ไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากในสภา (Hung Parliament) โดยพรรคการเมืองจะต้องได้ที่นั่งอย่างน้อย 326 ที่นั่งจากทั้งหมด 650 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร จึงจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้

ล่าสุด นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยจะร่วมกับพรรค Democratic Unionist Party (DUP) ของไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งการที่พรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งได้ 319 ที่นั่ง จับมือกับพรรค DUP ซึ่งมี 10 ที่นั่ง จะทำให้เกิดรัฐบาลผสมที่มี 329 ที่นั่ง โดยมีจำนวนที่นั่งเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรอย่างฉิวเฉียด

ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้จุดกระแสคาดการณ์ในตลาดถึงแนวทางการถอนตัวจาก EU ของอังกฤษว่าอาจจะมีท่าทีที่ผ่อนปรนลงกว่าเดิม ไม่ใช่ในลักษณะที่แข็งกร้าว หรือฮาร์ด เบร็กซิต (Hard Brexit) อย่างที่กังวลในตอนแรก เพราะถึงแม้พรรคอนุรักษ์นิยมจะได้คะแนนสูงสุด แต่ก็เสียที่นั่งให้พรรคแรงงานไปหลายที่นั่ง ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลชุดใหม่จำเป็นต้องทบทวนท่าทีเจรจาโดยลดความแข็งกร้าวลง

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนวันศุกร์ยังได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง เนื่องจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงจะเป็นผลดีต่อรายได้และผลกำไรในต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นอังกฤษ อย่างไรก็ดี การร่วงลงของเงินปอนด์หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังไม่หนักเท่ากับเมื่อครั้งหลังรับทราบผลการลงประชามติสหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้น ปอนด์ดิ่งหนักกว่า 10%

หุ้นบวกนำโดย สเมอร์ฟิต คัปปา กรุ๊ป บริษัทบรรจุภัณฑ์ลูกฟูกชั้นนำของยุโรป ที่ทะยานขึ้น 5.03% หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น โดยเฟรสนิลโลพุ่ง 3.60% อันโตฟากัสตาพุ่ง 3.51%

ส่วนหุ้นลบนำโดย เทย์เลอร์ วิมปีย์ บริษัทรับสร้างบ้าน ที่ร่วงลง 3.27% แบ๊บค็อก อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ร่วง 2.92% รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ลดลง 2.45%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ