ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 158.13 จุด หลังหุ้นเทคโนฯดิ่ง,จ้างงานภาคเอกชนสหรัฐซบเซา

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 7, 2017 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ หลังจากเกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,320.04 จุด ร่วงลง 158.13 จุด หรือ -0.74% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,409.75 จุด ลดลง 22.79 จุด หรือ -0.94% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,089.46 จุด ลดลง 61.39 จุด หรือ -1.00%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 248,000 ราย สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 243,000 ราย

ข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงงานของสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังมีขึ้นหลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดบางคนมีมุมมองที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเป้าหมายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.5% หุ้นอินเทล ดิ่งลง 2.1% หุ้นซีเกท เทคโนโลยี ร่วงลง 4.4%

ขณะที่บริษัทไมโครซอฟต์ได้ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ซึ่งจะรวมถึงการปลดพนักงาน 3,000 คนทั่วโลก โดยเป็นการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อพุ่งความสนใจไปในผลิตภัณฑ์ Azure ซึ่งอยู่ในธุรกิจ cloud ทั้งนี้ ไมโครซอฟต์ระบุว่า พนักงานที่จะถูกปลดออกมีจำนวนไม่ถึง 10% ของพนักงานในฝ่ายขาย และราว 75% ของการปลดออกจะเกิดขึ้นนอกสหรัฐ

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่เกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศความสำเร็จในการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันไปซื้อพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ร่วงลง 3.8% หลังจากหน่วยงานต่อต้านการทุ่มตลาดของสหภาพยุโรประบุว่า GE อาจให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในช่วงที่เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปดำเนินการทบทวนข้อตกลงมูลค่า 1.65 พันล้านดอลลาร์ระหว่าง GE กับบริษัทแอลเอ็ม วินด์ เพาเวอร์

หุ้นเทสลา ดิ่งลง 5.6% หลังจากรถยนต์รุ่น Model S ของเทสลาไม่ได้รับใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุดจากสถาบันประกันภัยบนทางหลวงของสหรัฐ

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 174,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 138,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 4.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ