ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 94.30 จุด รับตัวเลขจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday July 8, 2017 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,414.34 จุด เพิ่มขึ้น 94.30 จุด หรือ +0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,425.18 จุด เพิ่มขึ้น 15.43 จุด หรือ +0.64% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,153.08 จุด เพิ่มขึ้น 63.61 จุด หรือ +1.04%

ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์นั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.3% ดัชนี S&P ปรับตัวขึ้น 0.1% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.2%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 222,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 174,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% จาก 4.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 152,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 138,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนเม.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 207,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่ง

ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. ขณะที่เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จาก 2.4% ในเดือนพ.ค.

คริส โลว์ นักวิเคราะห์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า "ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมาก และข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับตลาดแรงงานที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้ เป็นสิ่งยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้รับแรงขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดี โดยไม่มีปัจจัยกดดันในเรื่องค่าแรง นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความชัดเจนมากขึ้นในการเริ่มพิจารณาการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ"

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิล หุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นเฟซบุ๊ก ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1%

ส่วนหุ้นบริษัทรายใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ รวมถึงหุ้นแมคโดนัลด์ พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นอเมซอน ปรับตัวขึ้น 1.4% หุ้นเน็ทฟลิกซ์ ทะยานขึ้น 2.7% หุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ พุ่งขึ้น 3.8%

หุ้นเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ปรับตัวขึ้น 1.4% หลังจากเทสลาเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกค้าจำนวน 3,500 คันในไตรมาส 2 ปีนี้

สำหรับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในด้านอื่นๆนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวในระดับปานกลาง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยจะอยู่ในลักษณะการปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนการปรับงบดุลให้กลับสู่ภาวะปกตินั้น จะเริ่มดำเนินการในปีนี้

ทั้งนี้ รายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของเฟดมีขึ้นก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธหน้า และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐในวันพฤหัสบดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ