ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นภาคบ่าย จากอานิสงส์วอลล์สตรีทแม้หุ้นจีนปรับตัวลง

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางจีนอีกครั้งในวันนี้ ตลอดจนความหวั่นวิตกเกี่ยวกับการใช้นโยบายลดหนี้สินที่อาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ แม้ว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงขยายตัวได้ดีก็ตาม ส่วนข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ช่วยหนุนคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 32,053.98 จุด เพิ่มขึ้น 33.23 จุด, +0.10% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,542.00 จุด เพิ่มขึ้น 152.77 จุด, +0.58% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,755.22 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด, +0.01%

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ (17 ก.ค.) เนื่องในวันแห่งทะเล

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 6.9% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรขยายตัว 8.6% ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้

ส่วนการลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวลงต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากตลาดส่งสัญญาณชะลอความร้อนแรง

สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 2/2560 ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับการขยายตัวในไตรมาสแรก

ขณะที่ยอดค้าปลีกขยายตัว 10.4% ในช่วงครึ่งปีแรก

แม้ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจจีนจะออกมาแข็งแกร่ง แต่นักวิเคราะห์มองว่า การที่จีนยังคงควบคุมการปล่อยสินเชื่อนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของประเทศ ซึ่งถือเป็นปัจจัยผลักดันการขยายตัวที่สำคัญของเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะจัดการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักลงทุนต่างจับตาการประชุมของธนาคารกลางทั้ง 2 แห่ง เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางทั้งสองแห่งมีแนวโน้มที่จะปรับนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่

ส่วนข้อมูลผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ไมโครซอฟต์ และยูนิลีเวอร์