ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 100 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่มีความตึงเครียดมากขึ้น
ณ เวลา 21.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,915.88 จุด ลดลง 132.82 จุด หรือ 0.60%
หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า กองทัพประชาชนเกาหลี (KPA) กำลังพิจารณาแผนการยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง Hwasong-12 จำนวน 4 ลูกพร้อมกัน โดยให้ตกลงห่างจากเกาะกวม 30-40 กม. ซึ่งการยิงขีปนาวุธดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายในกลางเดือนนี้
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุเตือนว่า มีโอกาสที่การใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังเตือนว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" จากสหรัฐ หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 244,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 240,000 ราย
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 127 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าว จะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐประกาศแผนปรับลดงบดุลวงเงิน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในการประชุมเดือนหน้า
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 0.1% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2016 หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.
การร่วงลงของดัชนี PPI ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของค่าใช้จ่ายในภาคบริการ ขณะที่ราคาพลังงานอ่อนตัวลง
เมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 2
ทั้งนี้ เมซีส์เปิดเผยว่า ยอดขายในห้างเมซีส์ที่เปิดดำเนินงานมานานกว่า 1 ปี ร่วงลง 2.5% ในไตรมาส 2 แต่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายจะลดลง 3.0%
นอกจากนี้ เมซีส์ระบุว่ามีกำไรเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 116 ล้านดอลลาร์ หรือ 38 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 2 จากระดับ 11 ล้านดอลลาร์ หรือ 3 เซนต์/หุ้น ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
เมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 2
ทั้งนี้ เมซีส์เปิดเผยว่า ยอดขายในห้างเมซีส์ที่เปิดดำเนินงานมานานกว่า 1 ปี ร่วงลง 2.5% ในไตรมาส 2 แต่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายจะลดลง 3.0%
นอกจากนี้ เมซีส์ระบุว่ามีกำไรเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 116 ล้านดอลลาร์ หรือ 38 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 2 จากระดับ 11 ล้านดอลลาร์ หรือ 3 เซนต์/หุ้น ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว