ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) โดยการนำของตลาดหุ้นเยอรมนี หลังจากที่ไบเออร์ บริษัทผลิตยารายใหญ่ของเยอรมนี เดินหน้าเข้าซื้อกิจการของมอนซานโต้ บริษัทสินค้าเกษตรรายใหญ่ของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.3% ปิดที่ 391.55 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี เพิ่มขึ้น 8.98 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 12,991.87 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ลดลง 9.07 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 5,351.74 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ลดลง 20.80 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 7,535.44 จุด
หุ้นไบเออร์ เพิ่มขึ้น 1.2% หลังบริษัทขายสินทรัพย์บางส่วนเพื่อนำเงินไปใช้ในการซื้อกิจการของมอนซานโต้ โดย BASF ตกลงซื้อธุรกิจยากำจัดวัชพืชของไบเออร์เกือบทั้งหมด ด้วยเงินสด 5.9 พันล้านยูโร
หุ้นโพรวิเดนท์ ไฟแนนเชียล บริษัทผู้ปล่อยกู้แก่ลูกหนี้กลุ่มที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ พุ่งขึ้น 12.5% หลังบริษัทประกาศแผนฟื้นฟูธุรกิจสินเชื่อบ้าน
หุ้นอาร์เซลอร์ มิตตัล ทะยาน 7.4% หุ้นริโอ ทินโต เพิ่มขึ้น 3% หุ้นเกล็นคอร์ บวก 2.4% หลังจากที่จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าเหล็กและสินแร่รายใหญ่ของโลก เปิดเผยมูลค่าการค้าต่างประเทศที่ยังคงแข็งแกร่ง
สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศปรับตัวขึ้น 16.6% สู่ระดับ 20.29 ล้านล้านหยวน (3.08 ล้านล้านดอลลาร์) ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้
ยอดส่งออกปรับตัวขึ้น 12.4% สู่ระดับ 11.16 ล้านล้านหยวน ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 22.3% สู่ระดับ 9.13 ล้านล้านหยวน ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าลดลง 17.7% สู่ระดับ 2.03 ล้านล้านหยวนในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.