ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทะยานขึ้นในคืนนี้ ก่อนการประกาศผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้
นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
ณ เวลา 20.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 133 จุด หรือ 0.57% สู่ระดับ 23,458 จุด
การดีดตัวของตลาดหุ้นสหรัฐในคืนนี้จะสอดคล้องกับตลาดหุ้นโลกซึ่งพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และการคาดการณ์ที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด เป็นประธานเฟดคนใหม่ในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ นายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบ ซึ่งสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI world equity index ซึ่งคำนวณจากการปรับตัวของตลาดหุ้นใน 47 ประเทศทั่วโลก ดีดตัวขึ้น 0.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ขณะที่มีแนวโน้มปรับตัวดีที่สุดในปีนี้นับตั้งแต่ปี 2556
ส่วนดัชนี STOXX 600 ของตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2558 ขณะที่ตลาดหุ้นลอนดอน, ปารีส และแฟรงก์เฟิร์ตต่างปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ทางด้านตลาดหุ้นเอเชียล้วนดีดตัวอย่างคึกคักในวันนี้ นำโดยตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดวานนี้ทำสถิติทะยานขึ้นในเดือนที่แล้วมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทหลายแห่ง เช่น เฟซบุ๊ก และเทสลา จะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากปิดตลาดในวันนี้
สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสในวันนี้ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.
การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.ได้รับแรงหนุนจากภาคการก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้นจากการฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา
ทั้งนี้ ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 85,000 ตำแหน่ง