ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ โดยถูกกดดันจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับความล่าช้าของมาตรการปรับลดภาษีของสหรัฐ
ณ เวลา 20.21 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 36 จุด หรือ 0.15% สู่ระดับ 23,380 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 0.43% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562 อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในตลาดได้บรรเทาลงในระดับหนึ่ง หลังจากคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee) มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ และจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับสภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะ เพื่อทำการพิจารณาในสัปดาห์หน้า
หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562
สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาเมื่อวานนี้ ซึ่งเนื้อหาหลักในร่างกฎหมายมีความแตกต่างจากฉบับของสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งผลให้เกิดความไม่แน่แนอนว่า วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะสามารถประสานความแตกต่างในเนื้อหาเหล่านี้ให้ลงตัวได้หรือไม่
การชะลอการบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราภาษี ถือเป็นการสวนทางความตั้งใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้โดยทันทีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ การชะลอการบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราภาษีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีได้มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ แต่ก็จะส่งผลให้บริษัทของสหรัฐที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศเลื่อนการตัดสินใจย้ายฐานกลับสู่สหรัฐ เนื่องจากต้องการรอให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์