ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนตัวลง ขณะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง ภายหลังจากที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง ซึ่งถือเป็นการปรับฐานหลังจากที่หุ้นกลุ่มนี้ดีดตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่เงินวอนอ่อนค่าลงหลังจากที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า จะใช้นโยบายที่สนับสนุนระบบการเงินต่อไป

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 29,245.91 จุด ลดลง 377.92 จุด, -1.28% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 33,542.50 จุด ลดลง 60.26 จุด, -0.18% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,720.56 จุด เพิ่มขึ้น 0.18 จุด, +0.01%

ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 1.50% จากระดับ 1.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554 สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อภายในประเทศ

เศรษฐกิจเกาหลีใต้มีแนวโน้มขยายตัวมากกว่า 3% ในปีนี้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนเข้าใกล้เป้าหมายของธนาคารกลางที่ระดับ 2% ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเอื้ออำนวยให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้เริ่มปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ

ข้อมูลที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขยายตัวรวดเร็วขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีน

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการประจำเดือนพ.ย.ขยายตัวที่ระดับ 54.8 เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.3 ในเดือนต.ค.

กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ดีดตัวขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากที่หดตัวลง 1.0% ในเดือนก.ย. โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการผลิตเครื่องจักรสำหรับงานหนัก

ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงได้คงการประเมินการผลิตภาคอุตสาหกรรมเอาไว้ที่ระดับเดิม โดยระบุว่า "การผลิตภาคอุตสาหกรรมเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว"

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะจัดการประชุมร่วมกับประเทศนอกกลุ่มโอเปก ในวันนี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต

ทั้งนี้ สมาชิก 14 ชาติของกลุ่มประเทศโอเปกจะประชุมกันในวันนี้ พร้อมกับอีก 11 ประเทศจากนอกกลุ่มโอเปก โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า