ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 200 จุด วิตกการเมืองป่วน หลัง"ฟลินน์"ซัดทอด"ทรัมป์"เป็นผู้สั่งการติดต่อรัสเซีย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 1, 2017 23:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุดในวันนี้ หลังมีรายงานว่า นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้การซัดทอดปธน.ทรัมป์ว่าเป็นผู้สั่งการให้เขาทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย

ณ เวลา 23.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,057.64 จุด ลดลง 214.71 จุด หรือ 0.88%

นอกจากนี้ นายฟลินน์ยังยอมรับว่า เขาได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เกี่ยวกับการสนทนาของเขากับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มกระบวนการลงมติต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในวันนี้เวลา 11.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.00 น.ตามเวลาไทย

มีการคาดการณ์กันว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา หลังจากที่พรรครีพับลิกันได้ทำการแก้ไขเนื้อหาบางส่วนในร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อคลายความกังวลต่อวุฒิสมาชิกที่วิตกว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะทำให้สหรัฐประสบภาวะขาดดุลงบประมาณมากขึ้น ส่งผลให้วุฒิสมาชิกจำนวนมากขึ้นหันมาให้การสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ โดยระบุว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันกำลังได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

"นี่เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวของคนในยุคหนึ่ง ขณะที่พรรคเดโมแครตพยายามขัดขวาง เนื่องจากมองว่าร่างกฎหมายนี้ดีเกินไป และจะทำให้พรรคเดโมแครตไม่ได้รับเครดิต" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ปัจจุบัน พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยมีจำนวนวุฒิสมาชิกทั้งหมด 52 เสียงจากทั้งหมด 100 เสียง ซึ่งหมายความว่า พรรครีพับลิกันไม่สามารถปล่อยให้สมาชิกพรรคเสียงหายไปมากกว่า 2 เสียง ถ้าหากวุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต และผู้สมัครอิสระต่างลงคะแนนคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว

ในกรณีที่ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีได้คะแนนเสียงเห็นชอบ 50 เสียงจากพรรครีพับลิกัน ขณะที่วุฒิสมาชิกอีก 50 เสียงลงมติคัดค้าน รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ก็จะลงคะแนนเสียงชี้ขาดในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านวุฒิสภาอย่างฉิวเฉียด

หากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในวันนี้ สภาคองเกรสสหรัฐก็จะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน และให้การอนุมัติ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส, นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ และนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ย

ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.9 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 54.6 ในเดือนต.ค.

อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ และการขยายตัวของการจ้างงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ