ดาวโจนส์พุ่งเกือบ 300 จุด ขานรับวุฒิฯสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 4, 2017 22:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 300 จุดในวันนี้ ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ณ เวลา 22.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,527.49 จุด เพิ่มขึ้น 295.90 จุด หรือ 1.22%

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกนเชสทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

นายเจเรมีย์ ซิเกล ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านการเงินจากวอร์ตัน สคูล คาดการณ์ว่า ดัชนีดาวโจนส์จะสามารถพุ่งขึ้นแตะระดับ 25,000 จุดในไม่ช้า โดยได้รับแรงหนุนจากการที่วุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

ขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์อยู่ห่างจากระดับ 25,000 จุดเพียงราว 2%

นายซิเกลคาดว่าดัชนีดาวโจนส์จะสามารถแตะระดับ 25,000 จุด โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ หรืออาจเพียงไม่กี่วัน

ก่อนหน้านี้ นายซิเกลสามารถทำนายการปรับตัวของดัชนีดาวโจนส์ได้อย่างถูกต้องในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยเขาเป็นผู้ทำนายตั้งแต่ปีที่แล้วว่า ดาวโจนส์จะสามารถแตะระดับ 20,000 จุด และเขาสามารถคาดการณ์อย่างถูกต้องเมื่อไม่นานมานี้ในการกล่าวว่าดาวโจนส์จะขึ้นแตะระดับ 24,000 จุด

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนยกเว้นนายบ็อบ คอร์กเกอร์ ต่างลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตทุกคนลงคะแนนเสียงไม่รับรองร่างกฎหมายดังกล่าว

หลังจากนี้ สภาคองเกรสสหรัฐจะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน และให้การอนุมัติ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป

ความแตกต่างสำคัญระหว่างร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในฉบับของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรคือ ร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรจะกำหนดให้การปรับลดภาษีมีผลบังคับใช้ทันทีในปีหน้า ในขณะที่ร่างของวุฒิสภาจะชะลอการปรับลดภาษีจนกว่าจะถึงปี 2562

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาปัจจัยการเมืองสหรัฐ หลังจากที่สื่อรายงานว่า นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เตรียมให้การซัดทอดนายทรัมป์ว่า เป็นผู้สั่งการให้เขาทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว

นอกจากนี้ นายฟลินน์ยังยอมรับว่า เขาได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เกี่ยวกับการสนทนาของเขากับนายเซอร์เกย์ คิซยัค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐ

นักลงทุนยังรอการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

ทางด้านซีวีเอส เฮลท์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ ประกาศซื้อกิจการบริษัทเอทนา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพ ในวงเงิน 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้วยเงินสดและหุ้น

หากรวมถึงมูลค่าหนี้สินของเอทนา ข้อตกลงซื้อกิจการดังกล่าวจะมีมูลค่าสูงถึง 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นซีวีเอสร่วงลง 3.4% ขณะที่หุ้นเอทนาพุ่งขึ้น 1.7%

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเอทนาจะได้รับเงิน 207 ดอลลาร์/หุ้น โดยแยกเป็นเงินสดจำนวน 145 ดอลลาร์/หุ้น และอีก 62 ดอลลาร์ในรูปหุ้น

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในข้อตกลงซื้อกิจการในวงเงินสูงที่สุดในปีนี้ และมีขึ้นในขณะที่บริษัทประกันถูกกดดันให้ลดต้นทุนด้านการแพทย์ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด

การควบกิจการระหว่างซีวีเอส และเอทนา จะเป็นการรวมจุดแข็งด้านเวชภัณฑ์ และแพลทฟอร์ม Pharmacy Benefit Manager (PBM) ของซีวีเอส เข้ากับความเชี่ยวชาญในธุรกิจประกันของเอทนา

คาดกันว่า การทำธุรกรรมดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 โดยขึ้นอยู่กับการอนุมัติของเจ้าหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบ และผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ