ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก บ่งชี้วอลล์สตรีทดีดตัวคืนนี้ ขานรับคองเกรสไฟเขียวร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 21, 2017 21:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับการที่สภาคองเกรสให้การรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีแล้ว ก่อนที่จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ณ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 60 จุด หรือ 0.24% สู่ระดับ 24,799 จุด

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย มาจากการรวมเนื้อหาของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีที่ผ่านการอนุมัติของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้ โดยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายจะยังคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% โดยลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสู่ระดับ 37% จากระดับ 39.6% ขณะเดียวกัน จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า แทนที่จะชะลอออกไปอีก 1 ปีตามร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา

ร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2529 หรือกว่า 30 ปี และจะถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสนับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.

นอกจากนี้ คาดว่าตลาดวอลล์สตรีทจะได้รับปัจจัยหนุนจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในไตรมาส 3 สูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้าย สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ที่ระดับ 3.2% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.3%

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 อยู่ที่ระดับ 3.0%

อย่างไรก็ดี ตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้ายที่ระดับ 3.2% สำหรับไตรมาส 3 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2557 และดีดตัวขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งมีการขยายตัว 3.1%

ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2557 ที่เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่ระดับ 3% หรือมากกว่า เป็นเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกัน

สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจมีมูลค่า 3.85 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 โดยลดลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.90 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การลงทุนในเครื่องมือทางธุรกิจอยู่ที่ระดับ 10.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และเพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 10.4%

ส่วนการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.2% จากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 2.3% หลังจากพุ่งขึ้น 3.3% ในไตรมาส 2


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ