ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าขยับลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวแคบในคืนนี้ หลังจากตลาดปิดทำการเนื่องในเทศกาลปีใหม่
ณ เวลา 18.53 น. ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าขยับลง 30 จุด หรือ 0.12% สู่ระดับ 24,767 จุด
นักลงทุนจับสถานการณ์ประท้วงในอิหร่าน โดยล่าสุดสื่ออิหร่านรายงานในวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 รายจากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงกว่า 400 รายถูกจับกุมตัวในระหว่างการประท้วง
ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ หลังจากนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวสุนทรพจน์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ซึ่งได้มีการเผยแพร่ไปทั่วประเทศเนื่องในวันปีใหม่ว่า เกาหลีเหนือมีความสามารถที่แข็งแกร่งด้านนิวเคลียร์เพื่อที่จะสกัดภัยคุกคามจากสหรัฐ นอกจากนี้ ปุ่มกดนิวเคลียร์ยังพร้อมตั้งอยู่บนโต๊ะที่ทำงานของตนเองอีกด้วย
ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวต่อไปว่า พื้นที่ทุกส่วนของสหรัฐนั้นอยู่ในรัศมีของอาวุธเกาหลีเหนือ พร้อมกับกดดันให้เกาหลีใต้และสหรัฐยุติการซ้อมรบทางทหาร ตลอดจนสั่งการให้มีการยกระดับการพัฒนาขีปนาวุธ ICBM
อย่างไรก็ดี ผู้นำเกาหลีเหนือยังได้กล่าวแสดงความพร้อมที่จะส่งตัวแทนเข้าร่วมมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ในเกาหลีใต้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในคืนนี้ มาร์กิตจะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธ.ค. ในเวลา 21.45 น.
นักลงทุนต่างจับตาเหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2561 ซึ่งได้แก่การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะประกาศแผนการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมไปถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟด ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ในเดือนก.พ.
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดหุ้นนิวยอร์กในปีนี้ได้แก่ปัจจัยทางการเมือง ซึ่งรวมถึงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ การสืบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปี 2559 ไปจนถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศ เช่น เกาหลีเหนือ