ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ณ เวลา 20.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 50 จุด หรือ 0.20% สู่ระดับ 24,186 จุด
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 56.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้รับแรงหนุนจากสัญญาณการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง
หุ้นของบริษัทออราเคิลพุ่งขึ้น 2% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด หลังจากที่มอร์แกน สแตนลีย์เพิ่มอันดับความน่าลงทุนของบริษัท สู่ “overweight" โดยระบุว่า ราคาหุ้นออราเคิลที่อยู่ในระดับต่ำในขณะนี้ ช่วยสร้างโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้นจากแรงหนุนของผลประกอบการ
ส่วนหุ้นของบริษัทไอบีเอ็มทะยานขึ้น 1.5% หลังจากที่บริษัทอาร์บีซีปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของบริษัท สู่ “outperform"
นอกจากนี้ นักลงทุนได้คลายความวิตกกังวลต่อคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือได้เปิดช่องทางการติดต่อสื่อสาร หรือสายด่วน กับเกาหลีใต้ ที่หมู่บ้านปันมุนจอม ซึ่งเป็นเขตปลอดทหารระหว่างชายแดนของประเทศทั้งสอง แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความในเชิงเหน็บแนมนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับปุ่มกดนิวเคลียร์ โดยปธน.ทรัมป์ระบุว่า "ปุ่มกดนิวเคลียร์ของสหรัฐทั้งใหญ่กว่า และมีสมรรถนะสูงกว่า" ปุ่มกดนิวเคลียร์ที่นายคิมอ้างว่าอยู่บนโต๊ะทำงานของตนเอง