ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลง นักลงทุนจับตาบอนด์ยีลด์ดีดตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 10, 2018 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้น โดยการลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลางต่างๆ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มว่า จะส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้น

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,825.90 จุด ลดลง 1.05 จุด, -0.06% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,796.45 จุด ลดลง 53.54 จุด, -0.22% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 31,223.19 จุด เพิ่มขึ้น 211.78 จุด, +0.68%

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 1.8% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนี CPI เดือนธ.ค.ขยายตัวขึ้นเล็กน้อยจากระดับของเดือนพ.ย.ที่ 1.7%

ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ขยายตัว 4.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี

ดัชนี PPI เดือนธ.ค.ขยายตัวในอัตราที่ช้าลง จากระดับของเดือนพ.ย.ที่ 5.8%

ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2561 สู่ระดับ 3.1% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.9% พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นวงกว้าง โดยได้ปัจจัยหนุนจากการค้าและการลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงาน "แนวโน้มเศรษฐกิจโลก (Global Economic Prospects)" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า การฟื้นตัวตามวัฏจักรของเศรษฐกิจทั่วโลกนั้น กำลังเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง โดยได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของการค้าและการลงทุน, ภาวะด้านการเงินซึ่งอยู่ในขั้นที่ดี, นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในหลายประเทศทั่วโลก, ความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้น และการลดลงของผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทรุดตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์

ธนาคารโลก ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 2.5% ในปี 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ธนาคารโลกประมาณการว่าขยายตัว 2.3% โดยมีปัจจัยหนุนจากการบังคับใช้มาตรการปรับลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า มาตรการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของสหรัฐจะช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการลงทุน ซึ่งจะช่วยลดภาระในการจ่ายภาษีของภาคเอกชน และทำให้ภาคเอกชนมีเงินเพียงพอในการใช้จ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆสำหรับองค์กร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ