ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลง เหตุวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดการณ์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 5, 2018 11:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ร่วงลง เนื่องจากแรงเทขายและความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในขณะเดียวกันนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลก ภายหลังจากที่สหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ขยายตัวสูงขึ้นกว่าคาดการณ์ จนทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ตามมาว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดการณ์

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 32,022.79 จุด ลดลง 578.99 จุด, -1.78% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,709.02 จุด ลดลง 565.51 จุด, -2.43% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,853.38 จุด ลดลง 17.10 จุด, -0.91%

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. โดยปรับตัวขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้ว ในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน พุ่งขึ้นแตะระดับ 54.7 ในเดือนม.ค. จากระดับ 53.9 ในเดือนม.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค.ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2555 ขานรับยอดสั่งซื้อใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้น และจากการที่บริษัทเอกชนเพิ่มการจ้างงาน

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนมีการขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคบริการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ