ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ นักลงทุนวิตกตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 14, 2018 07:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ได้ช่วยสกัดแรงลบในตลาดยุโรปในระหว่างวัน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6% ปิดที่ 370.58 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,196.50 จุด ลดลง 86.27 จุด หรือ -0.70% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,168.01 จุด ลดลง 9.05 จุด หรือ -0.13% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,109.24 จุด ลดลง 30.82 จุด หรือ -0.60%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนในตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น

ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ระดับ 3.0% ซึ่งแม้ว่าไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนธ.ค. แต่ก็ใกล้เคียงกับระดับ 3.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2555 นอกจากนี้ ดัชนี CPI เดือนม.ค.ยังอยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.9%

ทั้งนี้ ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า มีโอกาส 70% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ค. และมีโอกาส 50% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552

หุ้นเคอริ่ง เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์กุชชี่ ร่วงลง 4% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิในปี 2560 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.79 พันล้านยูโร

หุ้นเซเวิร์น เทรนท์ ซึ่งเป็นบริษัทปะปารายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 3.4% หุ้นยูไนเต็ด ยูทิลิตี้ ดิ่งลง 3.1% และหุ้นฮาร์เกรฟ แลนส์ดาวน์ ร่วงลง 2.6%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นสวนทางการปิดลบของตลาด โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเกลนคอร์ ดีดตัวขึ้น 2.5% แต่หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ขยับลง 0.8% และหุ้นโบลิเดน ร่วงลง 1.1%

หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.8% แม้มีรายงานว่าบริษัทอาจมีการใช้จ่ายในการจัดทำบัญชีใหม่ราว 1.8 พันล้านดอลลาร์ จาการที่รัฐบาลสหรัฐปฏิรูประบบภาษีครั้งใหญ่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ