ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก บ่งชี้วอลล์สตรีทฟื้นตัวคืนนี้ หลังดิ่งหนักวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 15, 2018 20:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะฟื้นตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุดเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ณ เวลา 20.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 65 จุด หรือ 0.26% สู่ระดับ 24,853 จุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความวานนี้ระบุว่า สหรัฐไม่สามารถเมินเฉยต่อการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม "เราไม่สามารถทำเป็นมองไม่เห็นต่อพฤติกรรมการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมอย่างแพร่หลายต่อประเทศของเรา" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ ทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความในวันพุธที่แล้วที่ระบุว่า สหรัฐได้แจ้งให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐ โดยให้ปรับลดลง 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่ที่จริงแล้ว ปธน.ทรัมป์ต้องการบอกให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้า 1 แสนล้านดอลลาร์ ไม่ใช่ 1 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี โฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการให้จีนบรรลุเป้าหมายดังกล่าวอย่างไร โดยจะเป็นการซื้อสินค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น เช่น ถั่วเหลืองหรือเครื่องบิน หรือไม่ หรือจีนต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายภาคอุตสาหกรรม, ลดเงินอุดหนุนรัฐวิสาหกิจ หรือลดกำลังการผลิตเหล็กและอลูมิเนียม

นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐได้เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม

เมื่อปีที่แล้ว จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวน 3.752 แสนล้านดอลลาร์

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 16.7% สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2558 โดยตัวเลขส่งออกไปยังจีนดิ่งลง 28.1% ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 226,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512

ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 158 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยปรับตัวขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนม.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 3.5% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนม.ค.

ดัชนีราคานำเข้าได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าทุนที่พุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 แม้ราคาน้ำมันร่วงลง

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน และดีดตัวขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปี หลังจากพุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ