ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ดัชนี PMI ทั้งภาคผลิตและภาคบริการยูโรโซนชะลอตัวลงในเดือนมี.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.6% ปิดที่ 369.15 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,100.08 จุด ร่วงลง 209.07 จุด หรือ -1.70% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,167.21 จุด ลดลง 72.53 จุด หรือ -1.38% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวัที่ 6,952.59 จุด ลดลง 86.38 จุด หรือ -1.23%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ
ทั้งนี้ การออกมาตรการเรียกเก็บภาษีของปธน.ทรัมป์มีขึ้น หลังจากที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้ทำการสอบสวนตามมาตรา 301 ต่อพฤติกรรมการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน โดยสินค้าของจีนที่ตกเป็นเป้าหมายในการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐ เป็นสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยีที่จีนมีข้อได้เปรียบเหนือสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของยูโรโซน อยู่ที่ 55.3 ในเดือนมี.ค. ลดลงจากตัวเลขเดือนก.พ.ที่ระดับ 57.1 และยังทำสถิติต่ำสุดในรอบ 14 เดือน
ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.ลดลงสู่ระดับ 56.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 8 เดือน จากระดับ 58.6 ในเดือนก.พ. และดัชนีดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้น อยู่ที่ 55.0 ในเดือนมี.ค. ลดลงจากระดับ 56.2 เมื่อเดือนก.พ. และทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
หุ้นฮัลมา ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ดิ่งลง 2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561 อันเนื่องมาจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ
หุ้นยูไนเต็ด อินเทอร์เน็ต ร่วงลง 9.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอในปีงบการเงิน 2560
หุ้นเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ ดีดตัวขึ้น 4.8% หลังจากบริษัทประกาศยุติการเจรจาเสนอซื้อธุรกิจเพื่อสุขภาพจากไฟเซอร์
ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า BoE อาจพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราค่าจ้างในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า BoE อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า อัตราค่าจ้างเฉลี่ย ซึ่งรวมโบนัส ขยายตัว 2.8% ในเดือนม.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนธ.ค. และหากไม่นับรวมโบนัส อัตราค่าจ้างเดือนม.ค.ขยายตัว 2.6%