ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 30.65 จุด เหตุวิตกสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday March 24, 2018 05:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นสมิทส์ กรุ๊ป กลุ่มบริษัทวิศวกรรมสัญชาติอังกฤษร่วง หลังบริษัทรายงานผลกำไรลดลง

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,921.94 จุด ลดลง 30.65 จุด หรือ 0.44% ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีฟุตซี่ร่วงลงไป 3.4% ถือเป็นสัปดาห์ที่ดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ ด้านรัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ โดยพุ่งเป้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 128 รายการ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลส์ว่าที่ประชุมจะอนุมัติรับรองข้อตกลง Brexit ของอังกฤษหรือไม่ ทั้งนี้ EU และอังกฤษสามารถบรรลุข้อตกลงในการยืดเวลาให้อังกฤษยังคงอยู่ใน EU ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2563 แต่จะมีบทบาทและอำนาจที่ลดน้อยลง โดยทั้ง 2 ฝ่ายกำหนดช่วงเวลาในการดำเนินกระบวนการเปลี่ยนผ่านเป็นเวลา 21 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.2562 จนถึงสิ้นปี 2563 ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU อย่างสมบูรณ์

การกำหนดระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อให้ภาคธุรกิจและพลเมืองทั้งในอังกฤษและ EU มีเวลามากขึ้นในการเตรียมพร้อมสำหรับการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU และจะช่วยให้คณะเจรจาของอังกฤษและ EU มีเวลาในการสรุปการเจรจาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่ายขณะเริ่มปี 2564 โดยเป็นที่คาดการณ์กันในวงกว้างว่าผู้นำชาติยุโรปจะรับรองข้อตกลงดังกล่าว

สำหรับหุ้นที่ร่วงลงวานนี้ นำโดย สมิทส์ กรุ๊ป บริษัทวิศวกรรมของอังกฤษ ร่วงลง 4.39% หลังบริษัทเผยกำไรลดลงในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบการเงิน จากต้นทุนการวิจัยที่สูงขึ้น

หุ้นโอลด์ มูชวล กลุ่มธนาคารและการลงทุน ลดลง 3.20% อินเตอร์เท็ก กรุ๊ป บริษัทตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ ลบ 2.45%

ขณะที่หุ้นเน็กซ์ ผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าและสินค้าในบ้านของอังกฤษ ทะยาน 7.67% เป็นแกนนำหุ้นบวก หลังผลกำไรที่ออกมาไม่ได้แย่อย่างที่นักลงทุนกังวล

หุ้นไมโคร โฟกัส อินเตอร์เนชั่นแนล ดีดขึ้น 4.85% จากที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องมา 9 วัน หลังบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์เตือนนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท ขณะที่ซีอีโอประกาศลาออกเมื่อต้นสัปดาห์ หุ้นเฟรสนิลโล บวก 4.18%

หุ้นแกล็กโซสมิทไคล์น บวก 3.3% หลังจากที่วัคซีนของบริษัทได้รับการอนุมัติในยุโรปและญี่ปุ่น นอกจากนี้ บริษัทยายักษ์ใหญ่ของอังกฤษยังเผยด้วยว่า บริษัทได้ยุติการเจรจาเสนอซื้อธุรกิจการดูแลสุขภาพผู้บริโภคจากไฟเซอร์แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ