ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก หลังถ้อยแถลงผู้นำจีนช่วยคลายกังวลสงครามการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 11, 2018 07:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงส่งสัญญาณว่า จีนพร้อมเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้าถึงตลาดจีนมากขึ้น พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์และสินค้าอื่นๆบางประเภท

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 378.42 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,397.32 จุด เพิ่มขึ้น 135.57 จุด หรือ +1.11% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,307.56 จุด เพิ่มขึ้น 44.17 จุด หรือ +0.84% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,266.75 จุด เพิ่มขึ้น 72.00 จุด หรือ +1.00%

นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากปธน.สี จิ้นผิง ได้ให้คำมั่นในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (BFA) เมื่อวานนี้ว่า จีนจะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์และภาษีนำเข้าสินค้าอื่นๆบางประเภท รวมทั้งเปิดกว้างการเข้าถึงตลาดจีน นอกจากนี้ จีนจะปรับปรุงสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งจะเพิ่มการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทต่างชาติ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มคลี่คลายลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความโจมตีจีนซึ่งเรียกเก็บภาษีต่อรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ สูงกว่าที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากจีน

หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นขานรับถ้อยแถลงของปธน.สี จิ้นผิง โดยหุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่งขึ้น 4.5% และหุ้นเดมเลอร์ เพิ่มขึ้น 1.2%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น นำโดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 5.1% หุ้นอันโตฟากัสตา ดีดขึ้น 4.5% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 3.5% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2% และหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.4%

หุ้นเกลนคอร์ ปรับตัวขึ้น 2.2% หลังจากนายอีวาน กลาเซนเบิร์ก ซีอีโอของเกลนคอร์ได้ลาออกจากการทำหน้าที่ผู้บริหารของบริษัทยูไนเต็ด คอมพานี รูซัล ของรัสเซีย ภายหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรกับบริษัทและบุคลากรของรัสเซีย

หุ้น Evraz ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่และเหล็กที่ดำเนินงานในรัสเซีย และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ดีดตัวขึ้น 1.1% หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 14% เมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากข่าวสหรัฐคว่ำบาตรรัสเซีย

ส่วนหุ้นหลุยส์ วิตตอง ทะยานขึ้น 4.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาสแรกปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ