ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 148.04 จุด หลังหุ้นเฮลธ์แคร์,หุ้นอุตสาหกรรมดิ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 1, 2018 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 เม.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพและหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม หลังจากที่ในช่วงแรก ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงข่าวที่ว่าบริษัทมาราธอน ปิโตรเลียม คอร์ป จะเข้าซื้อกิจการของบริษัทคู่แข่งอย่าง แอนเดฟเวอร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,163.15 จุด ร่วงลง 148.04 จุด หรือ -0.61% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,648.05 จุด ลดลง 21.86 จุด หรือ -0.82% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,066.27 จุด ลดลง 53.53 จุด หรือ -0.75%

หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพดิ่งลง 1.6% ขณะที่หุ้นอัลเลอร์แกน ดิ่งลง 5.1% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวลง 1.3% ส่วนหุ้นเซลจีน คอร์ป ร่วงลง 4.5% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า บริษัทเซลจีนอาจประสบความล่าช้าในการได้รับใบอนุญาตจากทางการสหรัฐ ในการจำหน่ายยา Ozanimod ซึ่งเป็นยารักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

หุ้นกลุ่มอตุสาหกรรมร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นโบอิ้งร่วงลง 2.1% ขณะที่หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ปรับตัวลง 0.3% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ร่วงลง 2% หุ้นอีตัน คอร์ป ดิ่งลง 1.4% หุ้นเคแอลเอ็กซ์ ร่วงลง 2.2% และหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ดิ่งลง 1.9%

หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ดีดตัวขึ้น 0.8% ขณะที่หุ้นแอนเดฟเวอร์ ทะยานขึ้น 123% หลังจากมาราธอน ปิโตรเลีย แถลงเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทจะเข้าซื้อกิจการของบริษัทแอนเดฟเวอร์ ซึ่งเป็นคู่แข่ง ด้วยวงเงินมากกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อก่อตั้งบริษัทกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ แซงหน้าวาเลโร เอเนอร์จี คอร์ป โดยบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่จะมีความสามารถในการกลั่นน้ำมันราว 3.1 ล้านบาร์เรล/วัน และมีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งท่อส่งน้ำมันที่กว้างขวาง

หุ้นแมคโดนัลด์ พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 1 ที่ระดับ 5.14 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.98 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรในไตรมาส 1 อยู่ที่ระดับ 1.79 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.67 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นวอลมาร์ท พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากบริษัท เจ เซนส์บูรี พีแอลซี ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ของอังกฤษยืนยันว่า ทางบริษัทบรรลุข้อตกลงควบกิจการกับ อัสด้า ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกในเครือของวอลมาร์ท

หุ้นสปรินท์ คอร์ป ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายในสหรัฐ และเป็นบริษัทลูกของซอฟท์แบงก์ กรุ๊ป คอร์ป ร่วงลง 14% หลังจากสปรินท์ได้บรรลุข้อตกลงควบรวมกิจการกับที-โมบาย ยูเอส อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของดอยซ์ เทเลคอม เอจี เพื่อจัดตั้งบริษัทขนาดใหญ่ที่มีฐานสมาชิกมากกว่า 120 ล้านราย ทั้งนี้ บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะมีชื่อว่า "ที-โมบาย" โดยดอยซ์ เทเลคอมจะถือหุ้นในสัดส่วน 42% ขณะที่ซอฟท์แบงก์จะถือหุ้น 27%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะพุ่งขึ้น 1.0%

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 1-2 พ.ค.นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และจะปรับขึ้นในการประชุมเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค., ยอดขายรถยนต์เดือนเม.ย., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนเม.ย.จาก ADP, ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนเม.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), คำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ