ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น จากแรงซื้อที่มีเข้ามาภายหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นขานรับเงินเฟ้อสหรัฐที่อ่อนตัวลง ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ในขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การเมืองระหว่างสหรัฐและอิหร่าน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,699.76 จุด เพิ่มขึ้น 202.58 จุด, +0.90% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 31,227.84 จุด เพิ่มขึ้น 418.62 จุด, +1.36% ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ (11 พ.ค.) เนื่องในวันหยุดพิเศษตามประกาศของรัฐบาลมาเลเซีย
ตลาดยังคงติดตามสถานการณ์ด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ภายหลังจากที่กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบุคคลและองค์กรของอิหร่านรวม 9 รายชื่อ ระบุเพื่อขัดขวางเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเงินตราในอิหร่านและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) หลังพบว่ารายชื่อเหล่านี้มีส่วนพัวพันกับการโอนเงินให้กับกองกำลังปฏิวัติอิสลาม
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน เมื่อต้นสัปดาห์นี้
ในแถลงการณ์ระบุว่า "สหรัฐอเมริกาและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ร่วมมือกันในการขัดขวางเครือข่ายแลกเปลี่ยนเงินตราขนาดใหญ่ในอิหร่านและ UAE ที่จัดหาและส่งเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์ให้แก่กองกำลังปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC-QF) เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมที่ไม่ประสงค์ดีและสนับสนุนเครือข่ายในท้องถิ่น"
ทั้งนี้ ยังมีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางที่ถูกจับตา ล่าสุด ทำเนียบขาวของสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ประณามอิหร่าน โดยสหรัฐอ้างว่าอิหร่านได้ยิงจรวดโจมตีดินแดนอิสราเอลจากซีเรีย
แถลงการณ์ดังกล่าวได้ประณามการโจมตีอัน "ยั่วยุ" ของอิหร่าน โดยสหรัฐ "สนับสนุนสิทธิ์ของอิสราเอลอย่างเต็มที่ในการป้องกันตนเอง"
เหตุการณ์โจมตีดังกล่าวไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่ทางอิสราเอลได้กล่าวโทษอิหร่านว่าเป็นผู้ที่สั่งยิงจรวดใส่ฐานทัพอิสราเอลในเขตที่ราบสูงโกลันที่ปกครองโดยอิสราเอล ซึ่งเป็นการสั่งยิงจากซีเรีย