ดาวโจนส์ดีดตัวต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด หุ้นพลังงาน,การเงินหนุนตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 30, 2018 21:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 200 จุด โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากดิ่งลงเกือบ 400 จุดเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลทุนเริ่มคลายความกังวลต่อปัจจัยการเมืองในอิตาลี

ณ เวลา 21.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,566.77 จุด เพิ่มขึ้น 205.32 จุด หรือ 0.84%

การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นกลุ่มการเงินช่วยหนุนตลาดในวันนี้

นักลงทุนเกาะติดความคืบหน้าทางการเมืองในอิตาลี หลังจากความพยายามในการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่ยืดเยื้อยาวนาน ยังคงไม่ประสบความสำเร็จ จนทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าอิตาลีอาจจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์วานนี้ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการปกป้องเทคโนโลยี และทรัพย์สินทางปัญญาจากพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เหมาะสมของจีน

แถลงการณ์ระบุว่า ในวันที่ 15 มิ.ย. สหรัฐจะเปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25%

ส่วนในวันที่ 30 มิ.ย. สหรัฐจะประกาศข้อจำกัดในการลงทุน และการควบคุมการส่งออกต่อผู้นำภาคธุรกิจของจีนและองค์กรของจีนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถือครองเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในภาคอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ สหรัฐจะยังคงดำเนินการยื่นฟ้องจีนต่อองค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่จีนมีพฤติกรรมที่มีอคติในการให้ใบอนุญาตเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา

ขณะเดียวกัน สหรัฐจะเรียกร้องให้จีนยกเลิกอุปสรรคทางการค้าทั้งหมด ซึ่งรวมถึงอุปสรรคทางการค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งส่งผลให้การทำธุรกิจในจีนมีความยากลำบาก

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1 ที่ระดับ 2.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.3%

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 จะอยู่ที่ระดับ 2.3%

เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวในอัตราที่ต่ำลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งมีการเติบโต 2.9%

ทั้งนี้ ในปี 2560 เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 1.4% ในไตรมาสแรก, 3.1% ในไตรมาส 2, 3.2% ในไตรมาส 3 และ 2.9% ในไตรมาส 4

การขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 2,3 และ 4 ของปีที่แล้ว ถือเป็นการปรับตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วง 9 เดือนในรอบ 1 ทศวรรษ

การชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ในปีนี้ มีสาเหตุจากการดิ่งลงของการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี

ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้นเพียง 1.0% ในไตรมาส 1 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2556 โดยมีการปรับลดลงจากเดิมที่รายงานที่ระดับ 1.1% หลังจากพุ่งขึ้น 4.0% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวมากกว่า 3% ในไตรมาส 2 ขณะที่การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนฟื้นตัว โดยได้รับอานิสงส์จากมาตรการปรับลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ส่วนออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ADP ได้ปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 163,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานที่ระดับ 204,000 ตำแหน่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ