ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก หลังนักลงทุนคลายกังวลการเมืองอิตาลี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 31, 2018 07:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในอิตาลี หลังจากพรรคการเมืองใหญ่ของอิตาลีกำลังจับมือกับพรรคพันธมิตรเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ นอกจากนี้ ความสำเร็จในการออกพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอิตาลี ยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของรัฐบาลอิตาลีเช่นกัน

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 385.49 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,783.76 จุด เพิ่มขึ้น 117.25 จุด หรือ +0.93% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,689.57 จุด เพิ่มขึ้น 56.93 จุด หรือ +0.75% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,427.35 จุด ลดลง 10.71 จุด หรือ -0.20%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การเมืองในอิตาลีที่เริ่มสัญญาณในด้านบวก หลังจากสองพรรคการเมืองใหญ่ของอิตาลีอย่างพรรค 5-Star Movement (M5S) และพรรค League ได้แสดงความตั้งใจที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสม พร้อมกับเรียกร้องให้มีการปลดนายเปาโล ซาโวนา ออกจากรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เนื่องจากนายซาโวนามีแนวคิดที่จะนำอิตาลีแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU)

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากความสำเร็จในการออกพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอิตาลี โดยเมื่อวานนี้ รัฐบาลอิตาลีสามารถจำหน่ายพันธบัตรประเภทอายุ 5 ปี และ 10 ปี ในวงเงินรวม 5.57 พันล้านยูโร หรือประมาณ 6.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของรัฐบาล

หุ้นธนาคารของอิตาลีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นยูนิเครดิต พุ่งขึ้น 1.4% และหุ้นอินเทซา ซานเปาโล ทะยานขึ้น 3%

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2.3% ขณะที่หุ้นบีพี ปรับตัวขึ้น 2.6% ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า ซาอุดิอาระเบีย, กลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก จะยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้

หุ้นเจ เซนส์บิวรี และหุ้นดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ต่างก็ปรับตัวขึ้น 1.2% หลังจาก Kantar เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ยอดขายของร้านค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ตทุกแห่งในอังกฤษปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเวลา 12 สัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 20 พ.ค. โดยได้ปัจจัยหนุนจากพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี และน.ส.เมแกน มาร์เคิล ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ รวมทั้งสภาพอากาศที่สดใสในช่วงวันหยุดธนาคารของอังกฤษ

หุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ขยับขึ้น 0.2% หลังจากบริษัทยังคงยืนยันเป้าหมายการผลิตในปี 2561

หุ้นเบเยอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยาและเคมีภัณฑ์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้อนุมัติให้เบเยอร์เข้าซื้อกิจการบริษัทมอนซานโต ซึ่งเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ของสหรัฐ

ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของเยอรมนี โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) รายงานว่า ยอดค้าปลีกของเยอรมนีในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 2.3% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 0.7%

ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของเยอรมนีลดลง 11,000 รายในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเยอรมนียังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ