ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 346.41 จุด รับหุ้นแบงก์ดีดแรง,ข้อมูลเศรษฐกิจสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 7, 2018 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขขาดดุลการค้าที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน หลังจากยอดส่งออกของสหรัฐทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 346.41 จุด หรือ +1.40% ปิดที่ 25,146.39 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.ปีนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 23.55 จุด หรือ +0.86% ปิดที่ 2,772.35 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 51.38 จุด หรือ +0.67% ปิดที่ 7,689.24 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพากำไรจากดอกเบี้ย หลังจากมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะช่วยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้

ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 1.7% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.2% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวขึ้น 2%

ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยได้แรงหนุนจากหุ้นคอมแคสต์ที่พุ่งขึ้น 3.8% หลังจากรัฐบาลอังกฤษอนุมัติให้คอมแคสต์เข้าซื้อกิจการของบริษัทสกาย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายเคเบิลทีวีของยุโรป ขณะที่หุ้นเทสลาร์ มอร์เตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ทะยานขึ้น 9.7% หลังจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นว่า ทางบริษัทอาจผลิตรถยนต์รุ่น Model 3 ได้มากถึงสัปดาห์ละ 5,000 คัน

ส่วนหุ้นเฟซบุ๊ก ปิดตลาดอ่อนแรงลง 0.8% หลังจากบริษัทยอมรับว่าได้ร่วมมือกับบริษัทจีนอย่างน้อย 4 แห่ง ในการแบ่งปันข้อมูลของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก โดยบริษัทจีนเหล่านี้รวมถึง หัวเว่ย เทคโนโลยีส์, เลอโนโว กรุ๊ป, ออปโป้ และทีซีแอล คอร์ป

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนเม.ย.ของสหรัฐลดลง 2.1% สู่ระดับ 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2.112 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การนำเข้าสินค้าและบริการลดลง 0.2% สู่ระดับ 2.574 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในไตรมาส 1 เมื่อเทียบรายไตรมาส และเมื่อเทียบเป็นรายปี ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานเพิ่มขึ้น 1.3% ในไตรมาส 1

นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่จะมีขึ้นในช่วงเช้าวันอังคารที่ 12 มิ.ย.นี้ โดยทำเนียบขาวยืนยันว่าการประชุมจะจัดขึ้นที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซาของสิงคโปร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่แคนาดาในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะพบปะหารือกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในระหว่างการประชุม G7 ครั้งนี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้และวันพรุ่งนี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ