ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลดลง เหตุนักลงทุนกังวลความขัดแย้งในการประชุม G7

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday June 9, 2018 05:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) จากความกังวลของนักลงทุนต่อการประชุมสุดยอด G7 ในช่วงสุปสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าที่ประชุมจะมีความเห็นขัดแย้งกับสหรัฐเกี่ยวกับนโยบายการค้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.82 จุด หรือ -0.21% ปิดที่ 385.12 จุดในวันศุกร์ และลดลง 0.5% ตลอดทั้งสัปดาห์

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,766.55 จุด ลดลง 44.50 หรือ -0.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,681.07 ลดลง 23.33 หรือ -0.30% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,450.22 จุด ขยับขึ้น 1.86 จุด หรือ +0.03%

นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังก่อนการประชุม G7 ที่คาดว่าสหรัฐจะถูกสมาชิกรายอื่นโจมตีเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์ที่แล้ว รวมไปถึงการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความโจมตีผู้นำแคนาดาและฝรั่งเศส ก่อนการประชุมสุดยอด G7 จะเริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ โดยกล่าวหาทั้งสองประเทศว่าได้เรียกเก็บภาษีจำนวนมากต่อสินค้าสหรัฐ รวมทั้งตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางการเงิน

"กรุณาบอกท่านนายกฯทรูโด และท่านประธานาธิบดีมาครองว่า พวกเขาได้เรียกเก็บภาษีจำนวนมากต่อสินค้าสหรัฐ และตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางการเงิน โดยสหภาพยุโรปเกินดุลการค้ากับสหรัฐมากถึง 1.51 แสนล้านดอลลาร์ และแคนาดาก็ได้ออกมาตรการกีดกันเกษตรกรของเรา โดยเรียกเก็บภาษีต่อผลิตภัณฑ์นมสูงถึง 300% ผมหวังว่าจะพบกับพวกเขาในการประชุม G7" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ทางด้านนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทวีตข้อความขู่ที่จะออกแถลงการณ์ G7 โดยมีการลงนามเพียง 6 ชาติ ยกเว้นสหรัฐ

"ประธานาธิบดีสหรัฐอาจจะไม่กังวลที่จะถูกโดดเดี่ยว ซึ่งเราก็ไม่กังวลเหมือนกัน หากจำเป็นต้องมีการลงนามข้อตกลงเพียง 6 ประเทศ เพราะ 6 ประเทศนี้เป็นตัวแทนถึงคุณค่า เป็นตัวแทนถึงเศรษฐกิจตลาดซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และขณะนี้กำลังเป็นพลังที่สำคัญในระดับระหว่างประเทศ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ทั้งนี้ สมาชิก G7 ประกอบด้วยแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐ

สำหรับภาวะการซื้อขายในเยอรมนีนั้น นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว ตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอด้วยเช่นกัน

สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.หดตัวลง 1% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัว หลังจากที่อ่อนแรงลงตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้

ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติฯ รายงานด้วยว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 2.2% ซึ่งส่งผลให้เยอรมนีมียอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.ทั้งสิ้น 1.94 หมื่นล้านยูโร น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านยูโร

ด้านตลาดหุ้นอิตาลีร่วงหนักเกือบ 2% หลังมีรายงานข่าวว่า ลุยจิ ดิไมโอ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมคนใหม่ของประเทศ เตรียมขอเงินทุนสนับสนุนเพิ่มเติมจากงบประมาณของ EU

ในส่วนของข่าวคราวความเคลื่อนไหวภาคธุรกิจ หุ้นดอยซ์แบงก์ลดลง 0.7% และคอมเมิร์ซ แบงก์ ลดลง 1.6% หลังมีรายงานข่าวว่าดอยซ์แบงก์กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะควบรวมกิจการกับคอมเมิร์ซแบงก์

บีที กรุ๊ป บริษัทสื่อสารรายใหญ่ เปิดเผยว่า ซีอีโอ เกวิน แพทเทอร์สัน จะก้าวลงจากตำแหน่งหลังทำหน้าที่มา 5 ปี โดยหุ้นบีที บวก 1% หลังมีข่าวดังกล่าว

หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ อเบอร์ดีน ร่วง 3.6% หลังลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ขายหุ้นในบริษัท ขณะที่หุ้นลอยด์ลดลง 1.2%

สำหรับในสัปดาห์หน้ามีเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนจับตาหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 12-13 มิ.ย., การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 14 มิ.ย. รวมไปถึงการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ