ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 1.58 จุด นักลงทุนผิดหวังซัมมิต"ทรัมป-คิม" ขณะจับตาประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 13, 2018 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อแถลงการณ์ร่วมในการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งมีความคลุมเครือและยังขาดรายละเอียดที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกหลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,320.73 จุด ลดลง 1.58 จุด หรือ -0.01% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,786.85 จุด เพิ่มขึ้น 4.85 จุด หรือ +0.17% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,703.79 จุด เพิ่มขึ้น 43.87 จุด หรือ +0.57%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อแถลงการณ์ร่วมที่มีการเผยแพร่ภายหลังการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือเมื่อวานนี้ โดยนายแอนดรูว์ กิลโฮล์ม ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียเหนือของคอนโทรล ริสค์ กล่าวว่า แถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาที่สั้น, คลุมเครือ และขาดรายละเอียด ขณะที่เกาหลีเหนือก็ไม่ได้แสดงความมุ่งมั่นครั้งใหม่ในการปลดอาวุธนิวเคลียร์

ทางด้านนายพารัก คานนา นักวิเคราะห์จากสถาบันนโยบายสาธารณะลี กวน ยู มองว่า แถลงการณ์ในการประชุมดังกล่าวไม่ได้ให้คำจำกัดความที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยปธน.ทรัมป์มองว่าการปลดอาวุธนิวเคลียร์ คือการที่เกาหลีเหนือจะไม่มีอาวุธนิวเคลียร์อีกต่อไป แต่สำหรับนายคิมมองว่าการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือจะต้องแลกกับการที่สหรัฐถอนทหารจนหมดจากเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปิดตลาดปรับตัวขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเฟซบุ๊ก หุ้นอัลฟาเบธ หุ้นเน็ตฟลิกซ์ และหุ้นอเมซอนดอทคอม ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 0.6% ขณะที่หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.3%

หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 5% หลังจากนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นทวิตเตอร์ขึ้นสู่ระดับ 50 ดอลลาร์

หุ้นเอทีแอนด์ที ดีดตัวขึ้น 0.5% ส่วนหุ้นไทม์ วอร์เนอร์ ปิดทรงตัว ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการตัดสินของศาลสหรัฐว่าจะอนุมัติให้บริษัทเอทีแอนด์ทีควบรวมกิจการกับไทม์ วอร์เนอร์ หรือไม่

หุ้นเทสลา มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทประกาศปลดพนักงาน 9% ในการปรับโครงสร้างบริษัททั่วโลก โดยนายอีลอน มัสค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา ทวีตข้อความระบุว่า การปลดพนักงานดังกล่าวถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ก็มีความจำเป็น เพื่อให้บริษัทไม่ต้องดำเนินการเช่นนี้อีกในอนาคต

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานและค่าจ้างแรงงานที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ ECB จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย.นี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนเม.ย.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคานำเข้า-ดัชนีราคาส่งออกเดือนพ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-การใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ