ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะแถลงผลการประชุม
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,703.71 จุด ลดลง 0.10 จุด หรือ -0.00%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมเฟด ขณะที่กระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่ระบุว่า คณะกรรมการเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง แม้ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงเมื่อคืนนี้ก็ตาม โดยหุ้นบีพี และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ต่างก็ปรับตัวลง 0.9%
หุ้นจัส อีท ร่วงลง 4.7% หลังจากเดลิเวรู ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ได้เปิดเผยแผนการขยายธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการทำข้อตกลงกับภัตตาคารในอังกฤษกว่า 5,000 แห่ง
หุ้นเกลนคอร์ ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ พุ่งขึ้น 3.8% หลังจากบริษัทประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร มูลค่า 5.6 พันล้านดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ทรงตัวที่ระดับ 2.4% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
ส่วนความคืบหน้าในกรณีที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรปนั้น สภาสามัญชนของอังกฤษ (House of Commons) ได้ยืนยันการกำหนดวันที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างเป็นทางการคือวันที่ 29 มี.ค. 2562 ซึ่งถือเป็นการคว่ำข้อเสนอของสภาขุนนางอังกฤษ (House of Lords) ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงวันเวลาดังกล่าว