ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 25.89 จุดหลังหุ้นแบงก์ร่วง ขณะหุ้นเทคโนฯพุ่งหนุน Nasdaq ทำนิไฮ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 15, 2018 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปีหน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,175.31 จุด ลดลง 25.89 จุด หรือ -0.10% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,782.49 จุด เพิ่มขึ้น 6.86 จุด หรือ +0.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,761.04 จุด เพิ่มขึ้น 65.34 จุด หรือ +0.85%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 1.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดิ่งลง 1.7% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลง 1.1% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ลดลง 0.8% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ขยับลง 0.1%

สำหรับปัจจัยที่ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงนั้น มาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.95% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ลดลงสู่ระดับ 3.07%

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้จัดการประชุมหารือกับที่ปรึกษาทางการค้าของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ เพื่อที่จะตัดสินใจในวันนี้ว่า สหรัฐจะมีการประกาศรายชื่อสินค้าจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีหรือไม่

ทั้งนี้ คาดว่าหากสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้าจีน ก็จะส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ ซึ่งรวมถึงถั่วเหลือง, เคมีภัณฑ์, รถยนต์ และเครื่องบิน

อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดตัวขึ้น 1.4% หุ้นอเมซอนดอคคอม พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ทะยานขึ้น 3.4% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวขึ้น 0.6% และหุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 0.9%

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq เช่นกัน โดยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 0.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 224,000 ราย

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมประกาศว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยจนถึงช่วงฤดูร้อนของปีหน้า

หุ้นคอมแคสต์ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ และเป็นบริษัทแม่ของเอ็นบีซียูนิเวอร์แซล พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากคอมแคสต์ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการส่วนใหญ่ของบริษัททเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ของนายรูเพิร์ท เมอร์ดอค ด้วยวงเงิน 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าวงเงินที่วอลท์ ดิสนีย์เสนอซื้อธุรกิจของฟ็อกซ์ถึง 19% ทั้งนี้ หุ้นทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ พุ่งขึ้น 2.1% ขณะที่หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ พุ่งขึ้น 2.3%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม-การใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ