ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) โดยนักลงทุนหันมาติดตามการรายงานผลประกอบการจากบรรดาธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ ขณะที่ยังคงจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.66 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 385.03 จุด และปรับตัวขึ้น 0.7% ตลอดทั้งสัปดาห์
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,429.20 จุด เพิ่มขึ้น 23.30 จุด หรือ +0.43% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,540.73 จุด เพิ่มขึ้น 47.76 หรือ +0.38% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,661.87 จุด เพิ่มขึ้น 10.54 จุด หรือ +0.14%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียและสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนหันมาจับตาการรายงานผลประกอบการทางฝั่งสหรัฐที่เริ่มเปิดฉากแล้ว โดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก ต่างรายงานผลประกอบการก่อนตลาดเปิดทำการในวันศุกร์
ในส่วนของสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสองชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนนั้น นักลงทุนยังติดตามใกล้ชิด แต่ได้พักความกังวลลงชั่วคราว หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนส่งสัญญาณยุติสงครามการค้าผ่านการเจรจาระดับทวิภาคีรอบใหม่ โดยนายหวัง ชูเหวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหรัฐร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้า ผ่านทางการเจรจาทวิภาคีรอบใหม่ และระบุว่า จีนไม่ต้องการทำสงครามการค้า ขณะที่มีรายงานว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ก็เต็มใจที่จะหันหน้าเจรจากับจีนเช่นกัน
สำหรับในตลาดหุ้นลอนดอนนั้น ดัชนีฟุตซี่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงเปิดตลาด เพราะได้อานิสงส์จากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงอย่างมาก หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะ ซัน ของอังกฤษ กรอบบ่ายวันพฤหัสบดีว่า แผนซอฟต์ เบร็กซิต (Soft Brexit) ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาจทำลายข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กลับลำในวันถัดมา เมื่อเขากล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับนางเมย์ในวันศุกร์ว่า เขายังคงสนับสนุนการทำข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักรภายหลังเบร็กซิต ส่งผลให้เงินปอนด์กลับมาแข็งค่าขึ้น
ทั้งนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจและการการเมืองของอังกฤษกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน หลังจากนายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit ได้ตัดสินใจลาออก โดยกล่าวว่าเขาไม่สามารถสนับสนุนแผนการของนางเมย์ในการดำรงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ EU ต่อไป หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกมา พร้อมระบุว่า นางเมย์ยอมอ่อนข้อต่อ EU มากเกินไป และง่ายเกินไป
รัฐบาลอังกฤษได้เผยแพร่สมุดปกขาว (white paper) หรือรายงานสรุปเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อวันพฤหัสบดี โดยมีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับการจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับสภาพยุโรป (EU)
หุ้นเฮงเค็ล บริษัทเคมีและสินค้าอุปโภคบริโภค บวก 1.66% ในตลาดหุ้นเยอรมัน หุ้นดอยช์โพสต์ บวก 1.62% และอาดิดาส บวก 1.54%
หุ้นเฮย์ บริษัทสรรหาบุคลากรสัญชาติอังกฤษ พุ่ง 8.6% หลังบริษัทคาดว่าผลกำไรจากการดำเนินงานทั้งปีจะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย
หุ้นดีซีซี บริษัทด้านบริการสนับสนุน บวก 3.7% ในตลาดหุ้นลอนดอน หลังยืนยันแนวโน้มผลประกอบการปีงบ 2562 พร้อมเผยว่าบริษัทได้เข้าซื้อธุรกิจสองแห่ง
หุ้นมิชลิน ผู้ผลิตยางรถยนต์ บวก 2.59% ในตลาดหุ้นฝรั่งเศส หุ้น LVMH กลุ่มบริษัทสินค้าหรูหรา บวก 2.28% หุ้นแอร์บัส บวก 2.15%
หุ้นอัลทรอง บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีร่วง 28.2% ในตลาดหุ้นฝรั่งเศส หุ้นออเรนจ์ บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของฝรั่งเศส ลบ 0.78% หุ้นซาโนฟี่ ผู้ผลิตยา ลดลง 0.44% ในตลาดหุ้นฝรั่งเศส