(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 136.42 จุด รับผลประกอบการแข็งแกร่งแม้ผิดหวังตัวเลขจ้างงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 6, 2018 06:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (3 ส.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆที่มีการรายงานตลอดทั้งสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เพราะตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ก็ได้เป็นปัจจัยจำกัดช่วงบวกในตลาด อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,462.58 จุด เพิ่มขึ้น 136.42 จุด หรือ +0.54% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,840.35 จุด เพิ่มขึ้น 13.13 จุด หรือ +0.46% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,812.01 จุด เพิ่มขึ้น 9.33 จุด หรือ +0.12%

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ค. โดยเพิ่มขึ้นเพียง 157,000 ตำแหน่ง โดยเป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.9% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 50 ปี หลังจากแตะระดับ 4.0% ในเดือนมิ.ย.

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 7 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% จากระดับ 0.2% ในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี โดยสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศเมื่อคืนนี้ว่า จีนจะเรียกเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยคิดอัตราภาษีในช่วง 5-25%

จีนจะดำเนินการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว หากสหรัฐเดินหน้าจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีน

การประกาศดังกล่าวของจีนมีขึ้น หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ก่อนหน้านี้เพื่อขู่ตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดวอลล์สตรีท โดยบริษัทในดัชนี S&P 500 มากกว่า 70% ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว ซึ่งบริษัท 78% จากจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นคราฟท์ ไฮนซ์ บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.55% หลังรายงานผลประกอบการดีกว่าการคาดการณ์

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไอบีเอ็มปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.29% ขณะที่หุ้นแอปเปิลขยับขึ้น 0.29% ซึ่งยังคงได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่แอปเปิลสามารถทำสถิติเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกของสหรัฐและของโลกที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ