ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวสูงขึ้น นลท.เมินสงครามการค้าจีน-สหรัฐ

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนไม่ได้ให้ความสนใจมากนักกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น แม้ว่า จีนจะประกาศตอบโต้สหรัฐด้วยการจัดเก็บภาษีวงเงินประมาณ 6 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,348.14 จุด เพิ่มขึ้น 263.48 จุด, +0.97% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,776.69 จุด เพิ่มขึ้น 356.15 จุด, +1.52% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,802.62 จุด เพิ่มขึ้น 9.68 จุด, +0.54%

ล่าสุด ในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนได้ยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เพิ่มเติมเมื่อวานนี้ ต่อกรณีที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ภายใต้กฎหมายมาตรา 301

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การที่สหรัฐออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนครั้งล่าสุด ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีนี้ ถือเป็นการละเมิดกฎของ WTO ด้วยเหตุนี้ จีนจึงได้ตัดสินใจยื่นคำร้องต่อ WTO

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเทียนจีนในวันนี้ว่า จีนจะไม่ลดค่าเงินหยวน เพื่อกระตุ้นการส่งออกของประเทศ

สำหรับความเคลื่อนไหวด้านการเงินและการธนาคารนั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งสัญญาณชี้นำล่วงหน้า (Forward guidance) และเป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีไว้ในการประชุมวันนี้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะกรรมการบริหารด้านการเงินของ BOJ มีมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับติดลบ 0.1% และคงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวไว้ใกล้ระดับศูนย์ รวมทั้งให้คำมั่นว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง

นโยบายการคงอัตราดอกเบี้ยไว้นั้นได้มีการระบุไว้ในแถลงการณ์ในการประชุมครั้งที่ผ่านมาซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนก.ค. พร้อมกับใจความที่ระบุให้ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสามารถเคลื่อนไหวในวงกว้างได้มากขึ้น