ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 464.06 จุด หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย,วิตกชัตดาวน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 21, 2018 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐอาจต้องปิดทำการเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะไม่ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพื่อตอบโต้พรรคเดโมแครตที่ไม่ให้ความสำคัญต่อการจัดสรรงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,859.60 จุด ร่วงลง 464.06 จุด หรือ -1.99% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,467.42 จุด ลดลง 39.54 จุด หรือ -1.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,528.41 จุด ลดลง 108.42 จุด หรือ -1.63%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ หลังจากเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นเพียง 1 ครั้ง หรืออาจจะไม่ปรับขึ้นเลยในปีหน้า

นักวิเคราะห์มองว่า แม้ว่าเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า แต่คณะกรรมการเฟดก็ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐทั้งในปีนี้และปีหน้า ซึ่งการดำเนินนโยบายการเงินที่ย้อนแย้งกับมุมมองทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.0% จากเดิมที่ 3.1% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.3% จากเดิมที่ 2.5%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ชัตดาวน์ หลังจากปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า เขาอาจจะวีโต้ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่สภาคองเกรสให้การอนุมัติ เพื่อตอบโต้พรรคเดโมแครตที่ไม่ให้ความสำคัญต่อการจัดสรรงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

ความเคลื่อนไหวของปธน.ทรัมป์มีขึ้นหลังจากวุฒิสภาสหรัฐลงมติเป็นเอกฉันท์ให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้บรรจุงบประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามที่ปธน.ทรัมป์ต้องการ

ทั้งนี้ วุฒิสภาได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้การอนุมัติต่อไป ก่อนเส้นตายเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์นี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงวันของวันเสาร์นี้ตามเวลาไทย ซึ่งหากปธน.ทรัมป์ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว ก็จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานจนถึงวันที่ 8 ก.พ.ปีหน้า

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 3% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.6% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.6% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ดิ่งลง 5.6% หุ้นมาราธอน ออยล์ ร่วงลง 1.8% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.8%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.5% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดิ่งลง 1.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.3% หุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 2.1% หุ้น Nvidia ร่วงลง 2.4% หุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ ลดลง 0.4% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 1.5% และหุ้นอเมซอนดอทคอม ดิ่งลง 2.3% หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวเช่นกัน โดยหุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล ดิ่งลง 4.1% หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ลดลง 0.8% หุ้นโคคา-โคลา ปรับตัวลง 0.7%

หุ้นไนกี้ ปิดตลาดร่วงลง 2.1% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 216,000 ราย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ