ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด กังวลผลประกอบการ,เศรษฐกิจจีนซบ,ชัตดาวน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 14, 2019 22:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลต่อการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ รวมทั้งภาวะซบเซาของเศรษฐกิจจีน และการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) ที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์

ณ เวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,877.54 จุด ลดลง 118.41 จุด หรือ 0.49%

ซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่รายได้ต่ำกว่าคาด โดยธนาคารมีกำไร 1.61 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.55 ดอลลาร์/หุ้น อย่างไรก็ดี ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ธนาคารมีรายได้ 1.71 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.76 หมื่นล้านดอลลาร์

บริษัทไดอะล็อค เซมิคอนดัคเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป และซัพพลายเออร์ของแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยรายได้ที่อยู่ในระดับต่ำสุดของตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีรายได้ 431 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ซึ่งใกล้ระดับต่ำสุดของช่วงการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 430-470 ล้านดอลลาร์

การเปิดเผยรายได้ในระดับต่ำดังกล่าวบ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวของการผลิต iPhone ของแอปเปิล หลังจากที่ซัพพลายเออร์หลายแห่งของแอปเปิลได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์รายได้ก่อนหน้านี้ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% หลุด 51 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการค้าที่ซบเซาของจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความกังวลต่อเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมันของจีน

ณ เวลา 20.05 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 66 เซนต์ หรือ 1.28% สู่ระดับ 50.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เปิดเผยว่า การส่งออกดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 2 ปีในเดือนธ.ค. ขณะที่การนำเข้าประสบภาวะหดตัว

นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าตลาดน้ำมันจะเข้าสู่ภาวะสมดุลในปีนี้

อย่างไรก็ดี นายบาร์คินโดแสดงความกังวลว่า การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก

"เรามีความกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้าที่ยังดำเนินอยู่ ซึ่งการดำเนินการใดๆที่จะส่งผลกระทบต่อการค้าก็อาจกระทบต่อการขยายตัว และอุปสงค์ของพลังงาน โดยนอกจากสหรัฐแล้ว จีนและอินเดียนับเป็นประเทศที่มีการใช้พลังงานรายใหญ่ของโลก" เขากล่าว

ทั้งนี้ จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยการซื้อน้ำมันของจีนเทียบเท่ากับสัดส่วน 18.6% ของการนำเข้าน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2560 ขณะที่อินเดียมีแนวโน้มเป็นประเทศที่จะแซงหน้าจีนในฐานะผู้นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลกในปี 2567

ขณะนี้ภาวะชัตดาวน์ในสหรัฐยังคงดำเนินต่อไป โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์

ปธน.ทรัมป์เคยเผชิญภาวะชัตดาวน์ก่อนหน้านี้ในวันที่ 19 ม.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งมีระยะเวลาเพียง 2 วัน

ทั้งนี้ ภาวะชัตดาวน์ครั้งล่าสุดในสหรัฐได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงพ้นเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค.2561 ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. 2561 ตามเวลาไทย และยืดเยื้อมาจนถึงขณะนี้ หลังจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติร่างกฎหมายที่บรรจุงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ปธน.ทรัมป์ก็ได้ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณที่ไม่รวมงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกเช่นกัน

ปธน.ทรัมป์กล่าวอย่างชัดเจนว่า เขาพร้อมที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ หากการเจรจากับสภาคองเกรสไม่ประสบความคืบหน้าในการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก

ทั้งนี้ การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าว จะทำให้ปธน.ทรัมป์มีอำนาจออกกฎหมายพิเศษโดยไม่ต้องขอการอนุมัติจากสภาคองเกรสสำหรับการสร้างกำแพงโดยใช้งบประมาณที่มีการจัดสรรไว้แล้วสำหรับกองทัพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ