ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ ขานรับการที่จีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
ณ เวลา 21.58 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,949.80 จุด เพิ่มขึ้น 39.96 จุด หรือ 0.17%
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเปิดเผยว่า จีนเตรียมปรับลดภาษีครั้งใหญ่ เพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงในขณะนี้
แถลงการณ์จากรัฐบาลจีนระบุว่า ทางการจีนจะเดินหน้าปรับลดภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและภาคการผลิต รวมถึงออกมาตรการที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจในปี 2562 เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์พุ่งขึ้นมากกว่า 5% ในวันนี้ หลังจากที่บริษัทประกาศปรับขึ้นราคาค่าสมาชิกเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ที่เปิดตัวการให้บริการเมื่อ 12 ปีก่อน
เน็ตฟลิกซ์ระบุว่า ราคาค่าสมาชิกรายเดือนแบบ Basic จะอยู่ที่ระดับ 9 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 8 ดอลลาร์ ขณะที่แบบ HD Standard จะอยู่ที่ระดับ 13 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 11 ดอลลาร์ และแบบ 4K Premium จะอยู่ที่ระดับ 16 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 14 ดอลลาร์
การปรับขึ้นราคาดังกล่าวอยู่ในอัตรา 13-18% ซึ่งเป็นการขึ้นราคาที่มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มให้บริการ โดยจะมีผลทันทีสำหรับลูกค้าใหม่ ส่วนลูกค้าเก่าจะมีผลในอีก 3 เดือน
ราคาหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ ดิ่งลง 1.1% ในวันนี้ หลังจากที่เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรต่ำกว่าคาดเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ไตรมาส โดยได้รับผลกระทบจากรายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้ที่อ่อนแอเกินคาด
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชส ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 1.98 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.20 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 2.68 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.684 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากการขายตราสารหนี้อยู่ที่ระดับ 1.86 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.2 พันล้านดอลลาร์
เวลส์ ฟาร์โก ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรในไตรมาส 4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่รายได้ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ เวลส์ ฟาร์โก ระบุว่า ธนาคารมีรายได้ 2.098 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.173 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ธนาคารมีกำไร 1.21 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.16 ดอลลาร์/หุ้น
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.
การปรับตัวลงของดัชนี PPI ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนธ.ค. หลังจากดีดตัวขึ้น 2.5% เช่นกันในเดือนพ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และปรับตัวขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี
ตลาดยังคงถูกกดดันจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) ที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ โดยขณะนี้ย่างเข้าสู่วันที่ 25 ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตารัฐสภาอังกฤษซึ่งจะทำการลงมติต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันนี้ เวลา 20.00-21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเช้ามืดวันพรุ่งนี้เวลา 03.00-04.00 น.ตามเวลาไทย อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า รัฐสภาอังกฤษจะคว่ำร่างข้อตกลง Brexit ในวันนี้ ซึ่งจะสร้างความปั่นป่วนต่อการเมืองอังกฤษ รวมทั้งตลาดการเงินทั่วโลก