ดัชนีดาวโจนส์ทรุดหนักในวันนี้ ล่าสุดร่วงลงเกือบ 400 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก
ณ เวลา 01.21 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,311.11 จุด ลดลง 395.24 จุด หรือ 1.60%
นักลงทุนรายหนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ได้แสดงความกังวลต่อปัจจัยต่างๆ ซึ่งอาจกระทบตลาด ซึ่งได้แก่ การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งความไม่แน่นอนกรณีที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังถูกกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) ซึ่งขณะนี้ทำสถิติยาวนานเป็นประวัติการณ์ และส่งผลกระทบต่อพนักงานของรัฐบาลจำนวน 800,000 คน
ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เตือนว่ายังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ
ทั้งนี้ IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.5% ในปีนี้ และ 3.6% ในปีหน้า โดยต่ำกว่าระดับ 3.7% สำหรับทั้ง 2 ปีที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
การดำเนินการดังกล่าวของ IMF ถือเป็นการปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน
ส่วนสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า GDP ในไตรมาส 4/2561 ขยายตัวเพียง 6.4% ส่วน GDP ตลอดปี 2561 ขยายตัว 6.6% จากระดับของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 28 ปี อันเนื่องมาจากผลกระทบของการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกว่า การที่รัฐบาลสหรัฐจะยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการเพื่อขอให้แคนาดาส่งตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี เพื่อดำเนินคดีในสหรัฐ อาจกระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง