ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนตัวลง เหตุวิตกเจรจาการค้าจีน-สหรัฐล่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 23, 2019 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่มีรายงานข่าวเรื่องการยุติแผนการจัดการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งประเด็นที่ว่า สหรัฐเตรียมยื่นคำขอให้ส่งตัวผู้บริหารหัวเว่ยมาดำเนินคดีในสหรัฐ

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,021.90 จุด เพิ่มขึ้น 16.45 จุด, +0.06% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 20,631.54 จุด เพิ่มขึ้น 8.63 จุด, +0.04% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,685.74 จุด ลดลง 16.38 จุด, -0.96%

สื่อรายงานว่า ทำเนียบขาวได้ปฏิเสธแผนการจัดการเจรจาการค้ากับจีนในสัปดาห์นี้ อันเนื่องจากความแตกต่างทางความคิดของทั้งสองฝ่ายในการบังคับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา

ก่อนหน้านี้ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) มีกำหนดพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีช่วย 2 รายในสัปดาห์นี้ ในความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนเส้นตายวันที่ 1 มี.ค. แต่การประชุมดังกล่าวได้ถูกยกเลิกในที่สุด

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐยืนยันว่า สหรัฐจะยื่นคำขออย่างเป็นทางการให้แคนาดาส่งตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี มาดำเนินคดีในสหรัฐ

"เราจะยังคงติดตามเรื่องการส่งตัวนางเมิ่งมาดำเนินคดีในสหรัฐ และเราจะดำเนินการให้ทันตามเวลาที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างสหรัฐกับแคนาดา" นายมาร์ค ไรมอนดี โฆษกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ปีที่แล้ว นางเมิ่งได้ถูกทางการแคนาดาจับกุมตัวที่เมืองแวนคูเวอร์ ตามคำร้องขอจากสหรัฐ ในข้อหาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐบังคับใช้ต่ออิหร่าน

สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเงินในวันนี้นั้น ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย, เป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี และมาตรการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมวันนี้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า BOJ จะยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นที่ระดับติดลบ 0.1% และคงเป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวไว้ใกล้กับระดับศูนย์

นอกจากนี้ BOJ ยังได้คงนโยบายการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น กองทุน ETF

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นในปี 2561 อยู่ที่ระดับ 1.20 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 3 ปี เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าพลังงานปรับตัวสูงขึ้น

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดนำเข้าในปี 2561 ปรับตัวขึ้น 9.7% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 82.69 ล้านล้านเยน ซึ่งมากกว่ายอดส่งออกที่ปรับตัวขึ้นเพียง 4.1% แตะที่ระดับ 81.49 ล้านล้านเยน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ