ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ บ่งชี้วอลล์สตรีทร่วง กังวลเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนไม่คืบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 24, 2019 21:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ หลังจากที่สหรัฐยอมรับว่า ยังคงห่างไกลจากการบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการ และภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ของสหรัฐ

ณ เวลา 21.17 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 30 จุด หรือ 0.12% สู่ระดับ 24,521 จุด

นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐยังคง"ห่างเป็นไมล์ๆ" จากการบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน

นายรอสส์กล่าวว่า สหรัฐและจีนมีประเด็นมากมายที่จะต้องเจรจากัน ซึ่งรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะต้องทำการปฏิรูปโครงสร้าง และกำหนดบทลงโทษ เพื่อให้มีการเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนอีกครั้ง

"เราต้องการที่จะทำข้อตกลง แต่ต้องเป็นข้อตกลงที่ใช้ได้กับทั้ง 2 ฝ่าย และขณะนี้ เรากำลังอยู่ห่างกันเป็นไมล์ๆ จากการบรรลุข้อตกลง" นายรอสส์กล่าว

นายรอสส์ระบุว่า ประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการเจรจาการค้ากับจีน ได้แก่ การที่สหรัฐขาดดุลการค้าจำนวนมากต่อจีน, การที่จีนมีแผนที่จะครอบครองอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงในปี 2025 และการที่จีนควรเปิดตลาดให้แก่บริษัทสหรัฐเพื่อให้เข้าสู่ตลาดได้อย่างเท่าเทียมกัน

สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ (AA) เปิดเผยกำไรในไตรมาส 4 ที่ดีกว่าคาดในวันนี้ ถึงแม้รายได้ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย

AA ระบุว่า กำไรอยู่ที่ระดับ 1.04 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.01 ดอลลาร์/หุ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.094 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.095 หมื่นล้านดอลลาร์

ทางด้านเซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์สเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางสายการบินสูญเสียรายได้ 10-15 ล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ อันเนื่องจากภาวะชัตดาวน์

อย่างไรก็ดี รายได้ที่สูญเสียไปดังกล่าวถือว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับรายได้จำนวน 5,700 ล้านดอลลาร์ของเซาธ์เวสต์ในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะเดียวกัน เดลต้า แอร์ไลน์สระบุเช่นกันว่า ทางสายการบินสูญเสียรายได้ราว 25 ล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ อันเนื่องจากภาวะชัตดาวน์

ภาวะชัตดาวน์ในสหรัฐได้ย่างเข้าสู่วันที่ 34 แล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 199,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 5,500 ราย สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ม.ค. มีจำนวนลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 1.71 ล้านราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 1,250 ราย สู่ระดับ 1.73 ล้านราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ