ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยี นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญาณว่า ECB อาจกลับมาทำการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หากมีความจำเป็น
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.80% ปิดที่ 357.23 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,218.83 จุด เพิ่มขึ้น 8.52 จุด หรือ +0.08% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,833.93 จุด เพิ่มขึ้น 86.83 จุด หรือ +1.29% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,928.18 จุด เพิ่มขึ้น 39.61 จุด หรือ +0.81%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากนายดรากีกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ECB อาจกลับมาทำการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE หากมีความจำเป็น แต่ ECB ไม่มีแนวโน้มที่จะดำเนินการดังกล่าวในปีนี้
"หากเศรษฐกิจซบเซาอย่างหนัก เรายังคงสามารถกลับมาใช้เครื่องมืออื่นๆที่เรามี แต่ในขณะนี้ เรายังไม่เห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะกลับมาซื้อพันธบัตรในปีนี้" นายดรากีกล่าว
ในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้ว ECB ประกาศยุติโครงการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE หลังจากที่ได้เข้าซื้อพันธบัตรในวงเงินรวม 2.6 ล้านล้านยูโรในช่วงระยะเวลาเกือบ 4 ปี
หุ้น Koninklijke Philips ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด พร้อมประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 1.71 พันล้านดอลลาร์
หุ้น SSAB AB ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กของสวีเดน ทะยานขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการในปีงบการเงิน 2562
ส่วนหุ้นผู้ผลิตบุหรี่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค พุ่งขึ้นเกือบ 5% และหุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ส เพิ่มขึ้น 2%