ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายทำกำไรฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 15.19 จุด ขณะ S&P500,Nasdaq พุ่งรับผลประกอบการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 1, 2019 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดในแดนบวก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก และเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) รวมทั้งปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,999.67 จุด ลดลง 15.19 จุด หรือ -0.06% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,704.10 จุด เพิ่มขึ้น 23.05 จุด หรือ +0.86% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,281.74 จุด เพิ่มขึ้น 98.66 จุด หรือ +1.37%

แม้ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังสามารถปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งแถลงการณ์การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ หากพิจารณาตลอดทั้งเดือนม.ค.แล้ว ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 7.2% ซึ่งเป็นสถิติเดือนม.ค.ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2532 ขณะที่ดัชนี S&P พุ่งขึ้น 7.9% และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 9.7% ซึ่งทั้งสองดัชนีต่างก็ทำสถิติเดือนม.ค.ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2532 เช่นกัน

หุ้น GE ปิดตลาดทะยานขึ้น 11.65% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 3.328 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.260 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 10.82% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2561 อยู่ที่ระดับ 1.691 หมื่นล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 30% จากระดับ 1.297 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4/2560 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 1.639 หมื่นล้านดอลลาร์

การพุ่งขึ้นของหุ้นเฟซบุ๊กช่วยหนุนหุ้นบริษัทอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นชาร์เตอร์ คอมมูนิเคชันส์ ทะยานขึ้น 14.2% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 0.72% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 2.9% และหุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 4.6%

หุ้นยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) ซึ่งเป็นบริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 4.93 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.42 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นโคโนโค ฟิลิปส์ ปรับตัวขึ้น 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 1.9 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.61 ดอลลาร์/หุ้น เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.32 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4/2560

หุ้นสปรินท์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มสื่อสาร ดีดตัวขึ้น 3.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2561 เพิ่มขึ้น 4.4% สู่ระดับ 8.60 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 8.42 พันล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในขณะนี้ รวมทั้งจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในเดือนหน้า เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งการประชุมระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศถือว่ามีความสำคัญต่อการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เนื่องจากหากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันที่ 2 มี.ค. ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่โพลล์สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ