ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรส
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ณ เวลา 22.17 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,332.54 จุด ลดลง 78.98 จุด หรือ 0.31%
ราคหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังจากเปิดเผยกำไร และรายได้เพิ่มขึ้นเกินคาดในไตรมาส 4
ทั้งนี้ GM เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.43 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.22 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทระบุรายได้ที่ระดับ 3.840 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.648 หมื่นล้านดอลลาร์
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นในความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
นายมนูชินยืนยันว่า เขาและคณะเจรจาการค้าของสหรัฐจะเดินทางไปยังจีนในสัปดาห์หน้า เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 มี.ค.
นอกจากนี้ นายมนูชินระบุว่า การเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน นายมนูชินกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวได้ดี และเป็นไปตามแผนเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
"ตามที่ท่านประธานาธิบดีกล่าวไว้ในการแถลงนโยบายประจำปี แผนเศรษฐกิจของท่านกำลังดำเนินไปด้วยดี และเราจะไม่กลับไปสู่ลัทธิสังคมนิยม โดยเราไม่เชื่อในระบบเศรษฐกิจแบบมีการวางแผนจากศูนย์กลาง ซึ่งรัฐบาลจะวางข้อจำกัดต่อเศรษฐกิจ แต่เราจะใช้แผนเศรษฐกิจที่ใช้ได้ดีสำหรับอเมริกา" เขากล่าว
นายมนูชินแสดงความเห็นดังกล่าว หลังจากที่ปธน.ทรัมป์กล่าวในการแถลงนโยบายประจำปีเรียกร้องให้สมาชิกคองเกรสหันหน้าเข้าหากัน และยุติความเห็นต่างทางการเมือง เพื่อให้มีความคืบหน้าในด้านการตรวจคนเข้าเมือง, การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าววิพากษ์วิจารณ์กระแสผลักดันจากนักการเมืองบางกลุ่มที่สนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม
"เรารู้สึกตกใจที่เห็นกระแสเรียกร้องให้มีการใช้ระบบสังคมนิยมในประเทศของเรา โดยอเมริกาถูกสร้างขึ้นบนเสรีภาพและอิสรภาพ ไม่ใช่จากการบังคับ, ครอบครอง และควบคุมของรัฐบาล เราเชื่อมั่นว่าอเมริกาจะไม่มีทางเป็นประเทศสังคมนิยม" ปธน.ทรัมป์กล่าว
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 เดือน โดยตัวเลขขาดดุลการค้าปรับตัวลงจากการลดลงของการนำเข้าโทรศัพท์มือถือ และผลิตภัณฑ์น้ำมัน
ทั้งนี้ ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 11.5% สู่ระดับ 4.93 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.40 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากแตะระดับ 5.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนลดลงสู่ระดับ 3.79 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. หลังจากแตะระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
กระทรวงพาณิชย์ยังเปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าและบริการลดลง 0.6% สู่ระดับ 2.099 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ส่วนการนำเข้าสินค้าและบริการลดลง 2.9% สู่ระดับ 2.592 แสนล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายแรนดัล คาร์ลส์ รองประธานเฟด ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้