ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 220.77 จุด วิตกศก.โลกชะลอตัว,เจรจาการค้าสหรัฐ-จีนไม่คืบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 8, 2019 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของยูโรโซนในปีนี้และปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะไม่คืบหน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,169.53 จุด ร่วงลง 220.77 จุด หรือ -0.87% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,706.05 จุด ลดลง 25.56 จุดหรือ -0.94% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,288.35 จุด ลบ 86.93 จุด หรือ -1.18%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวเพียง 1.3% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 1.9% ในปีที่แล้ว และคาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวที่ระดับ 1.6% ขณะที่ก่อนหน้านี้ EC คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะมีการขยายตัว 1.9% ในปีนี้ และ 1.7% ในปีหน้า

EC ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของ EU ซึ่งไม่รวมสหราชอาณาจักร จะขยายตัวเพียง 1.5% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2.1% ในปีที่แล้ว และคาดว่าจะดีดตัวสู่ระดับ 1.8% ในปีหน้า โดย EC ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงนั้น มาจากผลกระทบของความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ และหนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากแหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีแนวโน้มอย่างมากที่จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันเส้นตายวันที่ 1 มี.ค. ที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดไว้สำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า ถึงแม้ว่าผู้นำสหรัฐและจีนจะมีโอกาสพบกัน แต่ขณะนี้มีงานที่ต้องทำอย่างมาก และเหลือเวลาน้อยเกินไปในการทำข้อตกลงกับจีน นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังต้องเตรียมการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในช่วงปลายเดือนนี้ด้วย

ทั้งนี้ หากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันดังกล่าว ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง โดยกลุ่มพลังงานร่วงนำ 2.13%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่หรือกลุ่ม FAANG ซึ่งประกอบด้วยเฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปรับตัวลง โดยกลุ่มเทคโนโลยีร่วง 1.44%

หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วง 2.41% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.89% หุ้นอเมซอน ลบ 1.58% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วง 2.12% และหุ้นอัลฟาเบท ลดลง 1.51%

หุ้นทวิตเตอร์ ร่วงลง 9.8% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4 ที่ระดับ 31 เซนต์/หุ้น มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 25 เซนต์/หุ้น และรายได้อยู่ที่ระดับ 909 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 868 ล้านดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 234,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ