ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และตลาดยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร
ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.22% ปิดที่ 371.23 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,215.85 จุด เพิ่มขึ้น 19.74 จุดหรือ +0.38% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,457.70 จุด ปรับตัวขึ้น 34.42 จุดหรือ +0.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,178.60 จุด บวก 11.21 จุดหรือ +0.16%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับแนวโน้มเชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุหลังการเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนเมื่อวานนี้ว่า เขาอาจจะขยายกำหนดเส้นตายในการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนจากวันที่ 1 มี.ค.ออกไปอีก 1 เดือนหรือมากกว่านั้น หากสหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้ามากขึ้น และเขาหวังว่า จะได้พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในเร็วๆ นี้ เพื่อทำการตัดสินใจด้านการค้าครั้งใหญ่ที่สุดร่วมกัน
ด้านนายเหอกล่าวว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จีนจะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ โดยนายเหอจะยังคงอยู่ในกรุงวอชิงตันต่อไปอีกสองวันในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อเจรจากับคณะเจ้าหน้าที่สหรัฐ และเขาระบุว่า การเจรจามีความคืบหน้าในประเด็นด้านนโยบายสกุลเงิน
หุ้นกลุ่มธนาคารในตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังหุ้นเมโทร แบงก์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 9.66% เนื่องจากธนาคารได้รับเงินทุน 120 ล้านปอนด์จาก Banking Competition Remedies Limited (BCR) เพื่อสนับสนุนการแข่งขันในธุรกิจธนาคาร
หุ้นธนาคารโซซิเอเต้ เจเนเรล (ซอคเจน) ของฝรั่งเศส บวก 1.42% หลังธนาคารระบุว่า กำลังพิจารณาปรับลดตำแหน่งงานลงหลายร้อยตำแหน่งเพื่อลดแรงกดดันจากต้นทุนด้านกฏระเบียบที่เพิ่มขึ้น
หุ้นสเวดแบงก์ เอบีของสวีเดน บวก 3.85%