ดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด เก็งสหรัฐ-จีนเจรจาการค้าคืบหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 29, 2019 21:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ขานรับความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ณ เวลา 20.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,850.71 จุด บวก 133.25 จุด หรือ 0.52%

หุ้นกลุ่มธนาคาร, พลังงาน และเทคโนโลยีดีดตัวนำตลาดในวันนี้

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 10.3% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นการปรับตัวดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้น 12.3% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2552 ส่วนดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2555

การดีดตัวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในไตรมาสแรกได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เปิดเผยว่า ตนและนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้ากับจีนแล้ว โดยการหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

ทั้งนี้ คณะผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งของจีนเพื่อทำการเจรจาการค้ากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ในวันที่ 28-29 มี.ค. จากนั้นนายหลิว เหอ และคณะ จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์แรกของเดือนเม.ย. เพื่อหารือกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนม.ค. หลังจากลดลง 0.6% ในเดือนธ.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.

หากมีการปรับค่าตามเงินเฟ้อ การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. หลังจากลดลง 0.6% ในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนม.ค.

ส่วนค่าจ้างเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนม.ค. ขณะที่ตัวเลขการออมลดลงสู่ระดับ 1.19 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.22 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 1.8% ในเดือนม.ค. หลังจากพุ่งแตะระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด ในเดือนธ.ค. หลังจากที่ได้เคยแตะระดับดังกล่าวในเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2555


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ