ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์แทบไม่ขยับในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวแคบในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 18.52 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 18 จุด หรือ 0.07% สู่ระดับ 26,316 จุด
ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐหลายแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกในสัปดาห์นี้ โดยเจพีมอร์แกนเชส และเวลส์ฟาร์โก จะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์นี้ ขณะที่ซิตี้กรุ๊ป และแบล็คร็อคจะเปิดเผยในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ดี นักลงทุนคาดการณ์ว่าบริษัทในดัชนี S&P 500 จะมีผลกำไรในไตรมาสแรกลดลง 4.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งจะเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2559
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์ว่าบริษัทในดัชนี S&P 500 จะมีรายได้ในไตรมาสแรกต่ำกว่าระดับ 5%
นักลงทุนจับตาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งกำลังเกิดความตึงเครียด หลังจากที่องค์การการค้าโลก (WTO) มีคำตัดสินระบุว่า การที่ EU ให้เงินอุดหนุนแอร์บัส ได้ส่งผลกระทบต่อสหรัฐ ซึ่งทำให้สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจาก EU คิดเป็นมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ EU ขู่ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นกัน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.พ., อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA), รายงานคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค.